คนที่เหลือหายไปไหนกันหมด ? พอบอกว่าแปดโมงพวกเราก็มากันตรงเวลาเลย พวกเราไม่จำเป็นต้องรอจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย โดยเฉพาะพระเณรต้องเป็นผู้นำเขา ต้องมีแต่มาก่อนไม่ใช่มาทีหลัง..!
แม้กระทั่งการเรียนหรือการสอนหนังสือ อาตมภาพก็ไปนั่งในห้องเป็นคนแรกเสมอ เป็นอาจารย์ที่ไปนั่งรอลูกศิษย์ทุกชั่วโมง ลูกศิษย์บางคนสอนไปจนถึงท้ายชั่วโมงเพิ่งจะมาถึง มาถึงก็รายงานตัว "ผมมาแล้วครับ" ก็เลยบอกไปว่า "เออ..กูเช็คขาดไปเรียบร้อยแล้ว..!"
เรื่องของกำลังใจ ขอย้ำเป็นครั้งที่ ๑๐๘ ว่ายิ่งทำก็ยิ่งเร็วขึ้น แต่เป็นความเร็วในลักษณะผิดพลาดน้อย หรือไม่ผิดพลาดเลย เพราะว่ามีสติสมบูรณ์
โดยเฉพาะพระใหม่ อะไรที่ยังไม่เคยชิน อย่างเช่นว่าการพับจีวร ห่มจีวร ก็ต้องซักซ้อม ไม่ใช่รอจนถึงเวลาจะใช้งาน ค่อยมานั่งงง ๆ ว่า "กูจะเริ่มจากตรงไหนวะ ?" ไม่ต้องใครหรอก กระผม/อาตมภาพนี่เอง พับจีวรครั้งแรก "ทำไมจีวรกูยาวแท้วะ ?" ก็คือแทนที่จะพับด้านกว้าง ดันไปพับด้านยาว ก็ต้องรื้อออกมาแล้วพับใหม่ ทั้ง ๆ ที่เพื่อนทั้งรุ่น ๓๐ กว่ารูปมอบความไว้วางใจให้อาตมาเป็นคนห่มผ้าให้ ทุกวันนี้ก็ยังงงอยู่ว่า "กูก็เพิ่งจะบวชเหมือนมึงนี่แหละ แล้วมึงเห็นอะไรหรือถึงให้กูช่วยห่มจีวรให้ ?"
ที่น่าสงสารที่สุดก็หลวงพ่อวัดวังหิน เจ้าคณะตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ ทำอะไรไม่เคยที่จะสะดวกราบรื่นกับใครเลย ไม่รู้ว่าไปเอาช่างฝีมือห่วย ๆ ที่ไหนมาหล่อพระประธาน อาตมภาพเห็นเขาเททองปุ๊บ บอกเลยว่าเจ๊งแน่นอน..! เพราะเหมือนอย่างกับโลหะหลอมไม่ละลายดี ไหลลงไปเป็นก้อน ๆ เลย..! แล้วก็จริง ๆ พระหล่อเสร็จ ออกมาเป็นรูโบ๋ทั้งองค์ มีแต่รอยแผลแหว่ง ๆ วิ่น ๆ จนต้องหล่อใหม่
พอมาตั้งใจปิดทองฝังลูกนิมิต ติดต่อเครื่องเสียง ติดต่อไฟ วางมัดจำวางเงินอะไรเรียบร้อย เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระเบิดตูม เงินสักบาทก็ไม่ได้ แต่จ่ายค่ามัดจำไปแล้ว แล้วมัดจำพวกนี้ไม่ใช่บาทสองบาทเสียเมื่อไร อย่างหนึ่งก็เป็นแสน ๆ บาท..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2023 เมื่อ 18:35
|