"สมัยนี้น่าสงสารมาก พ่อแม่ยังคิดว่าลูกเป็นดินน้ำมัน จะปั้นให้เป็นอะไรก็ได้ ซึ่งไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะว่าใจคนไม่เหมือนกัน
อ่านประวัติศาสตร์จีนดูสิ กษัตริย์จีนท่านหนึ่ง พยายามจะช่วยเหลือประชาชนที่โดนอุทกภัยทุกปี เพราะตายกันปีหนึ่งไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร กษัตริย์ท่านนั้นก็พยายามจะสร้างเขื่อนกั้นน้ำ แต่ยิ่งสร้างเท่าไรอุทกภัยก็ยิ่งรุนแรง เพราะว่าพอไปกั้นน้ำเอาไว้ น้ำพอสะสมรวมตัวกันมากเข้า ถึงเวลาที่น้ำพังเขื่อนแล้วกลายเป็นหนักกว่าเดิม
คราวนี้มีคำล่ำลือว่า ที่ภูเขาเซียนมีถ้ำอยู่ ในถ้ำนั้นมีคัมภีร์วิเศษ ถ้าใครสามารถดั้นด้นไปถึง เปิดคัมภีร์ออกมา ถามอะไรก็จะได้คำตอบ กษัตริย์ท่านนั้นก็เลยพยายามไปจนถึง พอเปิดคัมภีร์ขึ้นมา ได้คำตอบก็รีบจัดการแก้ไข และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอุทกภัยที่เคยท่วมหนัก คนตายปีละมาก ๆ ก็กลายเป็นบรรเทาเบาบางลง เพราะว่าคำตอบที่ได้มา เขาบอกเอาไว้แค่บรรทัดเดียวว่า ไม่ใช่กั้นแต่ให้ระบาย เท่านั้นท่านก็สามารถที่จะเอาไปใช้งานได้เลย
เนื่องจากทุกวันนี้ที่ท่านพยายามไปขวางกั้นธรรมชาตินั้นผิดวิธี มีอยู่ทางเดียว คือทำอย่างไรที่จะให้น้ำไปให้เร็วสุดและคล่องที่สุด ดังนั้น..พระองค์จึงขุดคลองซอยให้ได้มากที่สุด และก็ประสบความสำเร็จขึ้นมา
ฉะนั้น...เรื่องของการขวางธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แม้แต่พระพุทธเจ้าสอนธรรมเขาท่านก็คล้อยตาม ไม่เคยขัดใคร ท่านบอกว่าของเขาดีอยู่แล้ว แต่วิธีที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่ และก็ชี้แจงไปตามนั้น
คนเราพอรู้สึกว่าตัวเองทำดีอยู่แล้ว ทำถูกอยู่แล้ว พอรู้สึกว่าของเรายังมีดีอยู่ ก็จะไม่คัดค้าน เปิดใจรับฟังได้ แต่ถ้าไปบอกว่าไม่ดี เราพูดอะไรเขาไม่ฟังหรอก ฉะนั้น..ก็ลักษณะเดียวกัน เรื่องของการสอนเด็กเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เด็กจะดีจะเสียอยู่ที่พ่อแม่เลย ขอร้องไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าไม่มั่นใจว่าสอนเด็กให้ดีได้ อย่าแต่งงานเลย จะกลายเป็นว่าสร้างปัญหาให้กับสังคมทีหลัง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 14:30
|