ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 30-05-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเกิดมาในยุคที่บ้านใกล้เรือนเคียงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน บ้านโน้นมีแกงก็ส่งมา บ้านนี้มีผักผลไม้ก็ส่งไป มีอะไรก็เกาะรั้วปรึกษาหารือกัน ทำให้บ้านไม่จำเป็นที่จะต้องมีรั้วก็ได้ เพราะว่าคนข้างบ้านช่วยกันระมัดระวังดูแลให้

เมื่อคุ้นเคยกับสภาพสังคมเก่า ๆ บางทีก็หวนระลึกว่า เวลาใดหนอที่สิ่งทั้งหลายเหล่านี้หมดไป ? ก็มานึกได้ว่า
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้หมดไปตอนที่บรรดาผู้คนทั้งหลายทอดทิ้งครอบครัวเข้าสู่เมืองใหญ่ เพื่อที่จะหางานมาจุนเจือครอบครัวของตน กลายเป็นว่าการศึกษาที่มีมากขึ้น ทำให้คนต้องการอิสระมากขึ้น เมื่อแยกครอบครัวออกไปแล้วก็ยังมีการสันโดษ ก็คือต่างคนต่างอยู่ ขาดการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ เข้าไปสอบถามถึงผู้หนึ่งผู้ใดในตำบล ขอยืนยันว่าในตำบล จะมีกี่หมู่บ้านก็ตาม เขาสามารถบอกได้หมด ว่าบุคคลนั้นเรือนชานบ้านช่องอยู่ที่ไหน เป็นลูกเต้าเหล่าใคร บางทีก็ชักสาแหรกไปได้ถึง ๑๘ ชั่วคน..!

แต่ว่าในปัจจุบันนี้น่าเสียดายว่า บ้านข้างกันบางทีก็ไม่รู้จักชื่อกัน บางคนก็เคยแค่เห็นหน้าเท่านั้น ทักทายกันก็ยังไม่มี สังคมของเราถ้าอยู่ในลักษณะแบบนี้ ก็จะก้าวเข้าไปสู่สังคมแบบต่างประเทศ คือต่างคนต่างอยู่ ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเรา

กระผม/อาตมภาพเอง ต้องบอกว่าอายุมากแล้ว บางทีก็มาระลึกถึงความหลัง แม้ว่าจะไม่ได้หวนหาอาลัยมาก แต่มาคิดว่าในยุคนั้นสมัยนั้น เราอยู่กันอย่างสงบสุข มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำไมยุคปัจจุบันนี้ ถึงได้เปลี่ยนแปลงไปมากจนขนาดนี้ ?

แต่พอได้ยินเพื่อนฝูงบอกว่า "ถ้าเล่าความหลังแปลว่าแก่แล้ว" ก็ได้แต่หัวเราะอยู่ในใจ
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นธรรมดาของโลกที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป แต่ว่าถ้าเราสามารถที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นช้าลง ก็แปลว่าเราสามารถที่จะดึงให้ความดีทั้งหลายเหล่านี้อยู่ได้เนิ่นนานขึ้นไปอีกหน่อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อทั้งตัวเองและสังคมรอบข้างไปอีกระยะหนึ่ง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2023 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา