ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 27-05-2023, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,928 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ เรื่องของกัญชา กระผม/อาตมภาพยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าไม่สมควร กัญชาย่อมไม่สมควรต่อพระภิกษุสามเณร ไม่ใช่กฎหมายอนุญาตให้ครอบครองได้ไม่เกิน ๖ ต้น แล้วเราเป็นพระ เป็นเณร จะไปปลูกกัญชา จะเอาไว้เสพ เรื่องพวกนี้นั้น เป็นเรื่องที่ควรจะต้องละเว้นเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องเพราะว่า "หมอหนู" ไม่ใช่หมอ "หมอหนู" ตั้งใจขายกัญชาเท่านั้น..! จึงต้องหาทางแก้ไขให้กัญชาไม่ใช่พืชเสพติด แต่แก้ไขอย่างไรก็แก้ไขไม่ได้ กัญชาเป็นพืชเสพติดที่ให้ผลต่อจิตประสาท ไม่ว่าจะอ้างความดีในการรักษาโรคอะไรก็ตาม เราต้องไม่ลืม "มัชฌิมาปฏิปทา" ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือต้องพอเหมาะ พอดี แปลว่าควรจะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ไม่ใช่ปลูกเอง เสพเองกันครึกครื้น เดี๋ยวก็ได้หลอนกัญชาฆ่ากันตายแบบที่เกิดคดีขึ้นมาไม่นาน แล้วทุกคนก็พยายามปิดข่าว เบี่ยงเบนว่าไม่ใช่ผลจากการเสพกัญชา..!

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติพระธรรมวินัยเอาไว้ มีอานิสงส์อยู่ ๑๐ ประการ ประการหนึ่งก็คือกดข่มผู้เก้อยาก คำว่า ทุมฺมงฺกุ ในบาลีที่แปลว่า ผู้เก้อยาก คือพวกหน้าด้าน ต่อให้จับได้ต่อหน้าต่อตาก็ปฏิเสธ แบบวันนี้ที่เขาอ้างว่าโดนกลั่นแกล้ง..!

ข้อที่สองก็คือเพื่อความสุขของผู้มีศีลเป็นที่รัก เนื่องเพราะว่าทุกคนอยู่ภายใต้ระเบียบเดียวกัน ปฏิบัติในสิ่งที่เหมือน ๆ กัน ย่อมไม่เกิดวิปฏิสาร คือความเดือดเนื้อร้อนใจว่าตนเองต่างจากผู้อื่น ดังนั้น..ในเรื่องของพระธรรมวินัย ถ้าหากว่าเราเคร่งครัด เข้มงวด และรู้จักระมัดระวัง โอกาสที่เราจะเดือดร้อนก็ไม่มี

ยังโชคดีที่ว่าทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนกระทั่งตำรวจชุมชนที่เข้าไป เห็นแก่พระพุทธศาสนามาก จึงไม่ยอมให้นักข่าวเข้าไปในพื้นที่ ทำให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งยอมสึกหาลาเพศ และเข้ารับการบำบัดในเมื่ออยู่ในฐานะผู้ป่วย ก็ไม่ต้องโดนบันทึกประวัติ กลับออกมาบวชใหม่ได้ภายในไม่กี่วันเท่านั้น ต้องถือว่าเป็นโครงการที่เอื้ออาทรเป็นอย่างยิ่งต่อผู้เสพที่หลงผิด แต่ถ้าหากว่าใครทำจนเป็นสันดาน ก็อาจจะต้องมีการลงโทษกันในทางอื่นต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2023 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา