ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 23-05-2023, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,696
ได้ให้อนุโมทนา: 152,037
ได้รับอนุโมทนา 4,418,123 ครั้ง ใน 34,286 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเราทั้งหลายตั้งเป้าไว้ว่า "ปรารถนาพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้" ก็เปรียบเหมือนกับว่าเราต้องการจะซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง ตีเสียว่าราคารถยนต์ในปัจจุบันระดับที่ใช้งานได้ อยู่ที่ราคาคันละหนึ่งล้านบาท ท่านทั้งหลายพอเก็บเงินได้สองหมื่น สามหมื่น ก็เที่ยวไปซื้อโน่นซื้อนี่ ให้ตา ให้หู ให้จมูก ให้ลิ้น ให้กาย ให้ใจเสียหมด แล้วเมื่อไรถึงจะมีเงินเพียงพอที่จะซื้อรถตามที่เราต้องการ ?

การปฏิบัติธรรมหวังความหลุดพ้นของท่านทั้งหลายก็เช่นกัน อันดับแรกเลย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเจริญจิตภาวนา สั่งสมกำลังให้มากพอ เพื่อที่จะได้กด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราว เราจะได้ไม่ส่งส่าย ไม่วุ่นวายมาก ทำให้มีสติ รู้จักคิด พิจารณาให้เห็นความเป็นจริง ตามแต่วาสนาบารมีที่สั่งสมมา ถ้าหากว่าของเดิมทำเอาไว้มาก ก็สามารถที่ จะลด จะละ จะเลิก รัก โลภ โกรธ หลง ต่าง ๆ ลงไปได้มากน้อยตามแต่ตนเองได้ทำมา

แต่ว่าทุกคนกลับอยู่ในลักษณะของบุคคลที่ฟุ้งซ่าน อยากรู้ทุกเรื่อง สนใจไปทุกเรื่อง ซึ่งถ้าหากว่าผิดท่าผิดทางในลักษณะนอกทุ่งนอกท่ามา หลายท่านก็จะโดนกระผม/อาตมภาพด่าไปตรง ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น
"เข็ดแล้ว" กับเรื่องของการให้ความสนใจกับเรื่องนอกตน ไม่ฟุ้งซ่านไปในอดีต ก็ฟุ้งซ่านไปในอนาคต แล้วทำให้ รัก โลภ โกรธ หลง กำเริบ เกิดอาการจิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก ครั้งแล้วครั้งเล่า บางทีวันหนึ่งก็ตกแล้วตกอีกเป็นสิบเป็นร้อยครั้ง..!

แต่ด้วยความที่ท่านทั้งหลายยังคันอยู่ ยังไม่เข็ด ก็ทำให้ท่านทั้งหลายยังไม่รักษากำลังที่เราภาวนาเอาไว้ พยายามที่จะปล่อยให้รั่วเสียด้วยซ้ำไป เพราะว่าไปสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งหลายเหล่านั้น

กระผม/อาตมภาพยืนยันว่า ถ้าเป็นปัญหาในการปฏิบัติธรรม แล้วท่านทั้งหลายตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไป จะได้คำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่ทำ เอาแต่ถาม นั่นไม่ใช่วิสัยของนักปฏิบัติธรรมที่ดี เพราะว่าการถามของท่านนั้น เมื่อได้รับคำตอบไปก็เกิดความฟุ้งซ่าน อยากมี อยากได้ อยากเป็น อย่างที่กระผม/อาตมภาพตอบไป

ในเมื่อเอาความอยากนำหน้า ก็คือเอากิเลสนำหน้า เอาตัณหานำทาง แล้วการปฏิบัติธรรมของท่านทั้งหลายจะประสบความสำเร็จนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ต้องหวัง เพราะว่าเราฟุ้งซ่านนำหน้าไปก่อน จิตของเราไม่สงบพอ แล้วเราจะเอากำลังที่ไหนไปต่อสู้กับกิเลสได้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2023 เมื่อ 04:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา