ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 10-05-2023, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าเราตั้งใจทำจริง ๆ ปัญหาทุกอย่างจะมีคำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าต้องทุ่มเททำกันจริง ๆ ชนิดที่เอาชีวิตเข้าแลก แล้วก็จะชัดเจนเองว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนนั้นหมายถึงอะไร ยกเว้นขั้นตอนอย่างที่ได้ว่ากล่าวเอาไว้ เราค่อยไปกราบเรียนถามสอบถามจากท่าน นอกจากไม่เป็นการรบกวนครูบาอาจารย์แล้ว ยังทำให้เรายึดหลักธรรมแทนตัวบุคคลด้วย

ตัวบุคคลนั้นย่อมขึ้นอยู่กับสามัญลักษณะ ก็คือ อนิจจัง ไม่เที่ยง ทุกขัง เป็นทุกข์ อนัตตา ไม่สามารถยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ ท้ายที่สุดก็เสื่อมสลายตายพังไปหมด แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นเช่นนี้

ดังนั้น..ถ้าเรายึดตัวบุคคล โอกาสที่เราจะได้ดีมีน้อยมาก เพราะว่าเรายึดผิดที่ แต่ถ้าเรายึดหลักธรรมเป็นใหญ่ เราจะมีหลักยึดที่มั่นคงอย่างแท้จริง ขอเพียงให้เราตั้งหน้าตั้งตาทำจริงเท่านั้น เพียงแต่ว่าให้ทำแบบบุคคลที่มีปัญญาประกอบ ไม่ใช่ทำเพราะแรงชักชวน โฆษณาของคนใดคนหนึ่ง

ในชีวิตของกระผม/อาตมภาพเจอคนจำนวนมากที่มีเจโตปริยญาณ โดยเฉพาะสองท่าน ก็คือพุทธอิสระกับทิดคม หรืออดีตเจ้าคุณคมที่สึกไป ในระหว่างที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ ท่านจะสามารถรู้เท่าทันอารมณ์จิตของบุคคลที่ต่ำกว่าหรือเสมอกันได้ จึงทำให้ท่านสามารถพูดดักใจของเราได้จนกลายเป็นอัศจรรย์ แล้วทำให้คนเชื่อถือ เลื่อมใส ทุ่มเททำบุญอย่างชนิดขาดปัญญาประกอบ กลายเป็นอธิโมกขศรัทธา

เมื่อถึงเวลากำลังของท่านลดถอยลง วิชาเสื่อมขึ้นมา ก็จะเกิดอาการอย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็น ก็คือกิเลสตีกลับ รัก โลภ โกรธ หลง ท่วมทับตัวเอง กลายเป็นว่าตัวเองก็ยังสั่งสอนตัวเองไม่ได้ สิ่งที่เคยพูดเคยบอกเอาไว้ บางอย่างก็เหมือนกับด่าตัวเองชัด ๆ แต่เราก็ไม่ตำหนิกัน

เพียงแต่อยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการรู้อดีต รู้ปัจจุบัน รู้อนาคต ระลึกชาติได้ รู้ว่าคนและสัตว์ก่อนเกิดมาจากไหน ตายแล้วจะไปไหน รู้ใจคนอื่น และท้ายที่สุด รู้วิธีทำกิเลสให้สิ้นไป ถ้าตราบใดยังไม่สามารถทำกิเลสให้สิ้นไปได้ วิชาทั้งหลายเหล่านั้นมีโอกาสเสื่อมอยู่ตลอดเวลา

เพียงแต่ว่าเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้น ถ้าเป็นพระภิกษุสามเณรของเรา ต้องรีบปลีกตัวออกจากหมู่ ให้เวลาตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อที่จะประคับประคองปรับปรุงกำลังใจของเราให้ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้หมดกิเลส ยิ่งสามารถขัดเกลาตนเองให้กิเลสเบาบางได้เท่าไร ความปลอดภัยก็จะมีสูงเท่านั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้าพลาดให้กิเลสตีกลับเมื่อไร ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่กระผม/อาตมภาพกล่าวมาในข้างต้น ก็จะเป็นตัวอย่างที่เราท่านทั้งหลายได้เห็นอยู่กับตา

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2023 เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา