รถวิ่งไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า โดยที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์บ้าง ผ่านสถานที่สำคัญก็โดนบล็อกสัญญาณโทรศัพท์บ้าง เขย่ากันไปจนกระทั่งเหนื่อยใจเต็มทีว่าเมื่อไรจะถึงที่หมาย เพราะว่าในกำหนดการนั้น เราจะไปถึงที่หมาย คือโรงแรม The Grand Nubra ในเวลา ๑๑ โมงเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
แต่ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่รถมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบรรดาสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่เข้าไปเที่ยวยังหุบเขานูบรากัน เมื่อวิ่งสวนมาก็ทำให้ต้องคอยระมัดระวัง เพราะว่าถนนแถวนี้เขาทำสำหรับรถวิ่งคันเดียวเท่านั้น ถ้าหากว่ามาสวนกันเมื่อไร ก็แปลว่าต้องลงข้างทางกันคนละล้อ แล้วบางทีกระจกมองข้างกระทบกันก็มี แต่ก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยไปกันได้
ส่วนใหญ่บรรยากาศก็เป็นหุบเขาแห้งแล้งกรอบเกรียม บนยอดเขาก็จะเป็นยอดเขาหิมะตามปกติ ส่วนทางด้านล่างบางแห่งก็เป็นแม่น้ำ หรือว่าเป็นลำธาร แต่ว่าเป็นลำธารที่ค่อนข้างจะใส น้ำออกสีฟ้าเขียวสวยงามทีเดียว
แต่ว่าพวกเราทั้งเหนื่อยทั้งหิวแล้ว เพราะว่าวิ่งไปจนเที่ยงครึ่ง มาถึงเมืองหลายแห่ง แต่ก็วิ่งเลยไปทุกที จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพเห็นป้ายว่าอีก ๙๗ กิโลเมตรจะถึงเมืองเลห์ ยังทำให้ตัวเองตกใจว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่กลับไปยังเลห์ได้อีกด้วย ก็แปลว่าในวันพรุ่งนี้เราไม่จำเป็นที่จะต้องย้อนกลับไปทางเดิม หากแต่ว่าวิ่งผ่าไปเลยก็ได้
รถยนต์ที่แล่นสวนมานั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นรถของนักท่องเที่ยว มีทั้งรถแวน ๕ ประตู แล้วก็รถตู้ ๑๐ ที่นั่งแบบคันของเรา ส่วนหนึ่งที่เป็นสิงห์มอเตอร์ไซค์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ส่วนตัว หรือว่าเป็นรถที่เช่าหามาก็ไม่รู้ ? แต่บางทีเห็นวิ่งตามกันมาทีหนึ่งจำนวนมาก ๆ ดูแล้วอบอุ่นดีเหมือนกัน มีเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา จะได้ช่วยเหลือกันได้
พวกเรามาถึงโรงแรม The Grand Nubra ในเวลา ๑๔.๒๐ น. ของทางประเทศอินเดีย กระผม/อาตมภาพและพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. จึงได้ฉันเพลในเวลาบ่าย ๒ ครึ่งของประเทศอินเดีย หรือ ๔ โมงเย็นของบ้านเรา แต่ว่าโรงแรม The Grand Nubra นี้ดีตรงที่ไวไฟแรงมาก จึงได้ตั้งหน้าตั้งตาส่งงานเสียที หายไปเป็นวันเป็นคืน ญาติโยมบ่นจนกระทั่งหูจะพังอยู่แล้ว..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2023 เมื่อ 22:17
|