ไปจนกระทั่งถึงจุดชมวิวตอนเวลาประมาณ ๑๕.๔๕ น. ลุง Tsering Joldan ขออภัย..นามสกุลอาจจะอ่านผิด ก็จอดให้พวกเราถ่ายรูปในมุมที่สวยที่สุด ซึ่งเมื่อพวกเราแบ่งไปเป็นตากล้องก็ทำให้ขาดคนในคณะ หรือว่าในรูปหมู่ไป กระผม/อาตมภาพตะโกนบอกไกด์ท้องถิ่น คือนายเท็นซิน โซนัม บอกว่าให้ปีนหลังคารถตู้ ซึ่งมีบันไดอยู่ขึ้นไป เพื่อที่จะถ่ายรูปหมู่โดยที่ไม่บังทะเลสาบทางด้านหลัง แต่นายเท็นซินทำเป็นหูทวนลม..!
กระผม/อาตมภาพจึงให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ซึ่งทุกครั้งที่ลงจากรถ คนอื่นขึ้นรถไปแล้ว วัดออกซิเจนในเลือดก็จะอยู่ที่ ๔๐ กว่าบ้าง ๕๐ กว่าบ้าง แต่ของน้องเล็กอยู่ที่ ๙๐ กว่าเสมอ จนถูกแซวว่าน่าจะเป็นมนุษย์คนละสายพันธุ์กัน ครั้งนี้จึงให้น้องเล็กปีนหลังคาขึ้นไปถ่ายรูปหมู่ให้กับพวกเรา
เมื่อถ่ายรูปหมู่เสร็จสรรพเรียบร้อย พวกเราก็ขึ้นรถ วิ่งต่อไป เป็นการเลียบทะเลสาบระยะยาว โดยที่ผลัดกันดมออกซิเจนไปเพื่อความไม่ประมาท แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองก็ทำเช่นนั้น เพราะว่าถ้าหากสมองบวมขึ้นมา ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที..!
จนกระทั่งเวลา ๔ โมงเย็นของประเทศอินเดีย คุณลุง Tsering Joldan ซึ่งตอนนี้มั่นใจแล้วว่าอ่านชื่อถูกแน่นอน ก็ได้เลี้ยวรถเข้าไปบริเวณที่ถ่ายภาพได้สวยที่สุด ปรากฏว่ามีรถอยู่หลายสิบคัน มีบ้านพักลักษณะโรงแรมและเกสต์เฮ้าส์อยู่เป็นร้อย เพื่อให้พวกเราลงไปถ่ายรูปกัน ก็เป็นเรื่องแปลกที่ว่า จากที่จอดรถเดินไปจนกระทั่งถึงชายฝั่งทะเลสาบพันกองนั้น น่าจะอยู่ที่ประมาณครึ่งค่อนกิโลเมตร แต่กระผม/อาตมภาพไม่รู้สึกเหนื่อยเลย แต่เมื่อกลับมาถึงรถยนต์เป็นคนแรก ก็จัดการดมออกซิเจนเสียก่อน
เมื่อคนอื่นตามขึ้นมา โดยเฉพาะคุณยายภัทริณ จันทรนิภาพงศ์ ซึ่งอายุ ๘๒ ปี และคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม เจ้าของผู้ก่อตั้งเอ็น ซี ทัวร์ อายุ ๘๑ ปี เดินตามขึ้นมาแบบที่ภาษาวัยรุ่นว่า "ชิลด์มาก" จึงได้ถามว่าอายุเท่าไรแล้วจ๊ะ ? คุณนวลจันทร์บอกว่า "๑๘ เจ้าค่ะ" ส่วนคุณยายภัทริณบอกว่า "๒๘ ค่ะ" เป็นการอ่านอายุกลับหลังกันทั้งหมด แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2023 เมื่อ 19:36
|