เมื่อได้ออกซิเจนมาจนครบถ้วนกันทุกคนแล้ว พวกเราก็เดินทางเพื่อที่จะตรงไปทางด้านทะเลสาบพันกอง แต่ว่าถนนสายนี้สามารถวิ่งทะลุไปถึงเมืองมนาลีและเมืองธรรมศาลาในรัฐหิมาจัลประเทศ ที่องค์ดาไลลามะองค์ที่ ๑๔ ได้ไปเช่าจากประเทศอินเดีย สร้างเป็นชุมชนชาวทิเบตเอาไว้
พวกเราจะเจอด่านตรวจเป็นระยะ ๆ ไป เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าแถวนี้เป็นพื้นที่อ่อนไหว เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งต่างก็เป็นประเทศมหาอำนาจ ไม่มีใครยอมใคร ทำให้ต้องตรวจตรากันเข้มงวดมาก
แต่ว่าพวกเราไปยังไม่ทันจะเท่าไร พี่มุกดา (นางสาวมุกดา เพชรชื่นสกุล) ก็น็อกเป็นคนแรก ทั้ง ๆ ที่พื้นที่แถวนี้เพิ่งจะ ๓,๗๐๐ เมตรเศษเท่านั้น ทำให้ต้องกอดถังออกซิเจนใหญ่ซึ่งทางรถมีติดไว้ทุกคัน หายใจจนกว่าอาการจะดีขึ้นจึงได้เดินทางต่อไป ทำให้กระผม/อาตมภาพดุทุกคนว่า "การที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ใช่เรื่องของการเสียหน้า ไม่ใช่เรื่องของการต้องรักษาภาพพจน์ ให้รีบบอกโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ไข ไม่เช่นนั้นแล้วเรานั่นแหละ..ที่จะเป็นตัวถ่วงทีมของเราไม่ให้ไปถึงไหน"
ระหว่างทางนั้น เราก็ผ่านสถานที่สำคัญ คือพระราชวัง Shey ซึ่งเป็นพระราชวังของมหาราชาที่ปกครองทางด้านลาดักแห่งนี้ ก่อนที่จะย้ายไปยังเมืองลาดักอย่างถาวร เรามีโปรแกรมจะแวะเที่ยวสถานที่นี้ในขากลับ แล้วต่อไปก็เป็นวัด Chemray Gompa ซึ่งดูจากสายตาเป็นที่วัดใหญ่โตมโหฬาร ประมาณหมู่บ้านใหญ่ ๆ เลย สถานที่เหล่านี้นั้นน่าสนใจมาก แต่ว่าเราไม่มีโอกาสได้แวะ เพราะว่าเราต้องรีบเดินทางไปให้เร็วที่สุด เนื่องจากไม่สามารถที่จะทราบได้ว่า อนาคตนั้นจะเป็นเช่นไร
รถยนต์ของเราค่อย ๆ วิ่งสูงขึ้นไปตามลำดับ สถานที่ซึ่งสูงที่สุดในวันนี้ ความสูงอยู่ที่ ๕,๒๗๕ เมตร ซึ่งรถของเราสองคันก็ผลัดกันนำผลัดกันตาม เนื่องเพราะว่าถนนเป็นลูกรัง ใครอยู่ข้างหลังก็ได้กินฝุ่นกันอิ่มหน่อย..! เห็นบรรดาเจ้าหน้าที่นั้นก็มาจัดการย้ายหินถล่มออกไปบ้าง ทำการซ่อมแซมเส้นทางอยู่บ้าง
แต่ว่าเมื่อมองไปแล้วก็ใจหาย เพราะว่าจุดสูงสุดของถนนที่สายตามองเห็นนั้น เกือบจะสูงเท่ายอดเขาหิมะอยู่แล้ว พวกเราจึงต้องสลับกันวัดออกซิเจนในเลือดว่ามีมากน้อยเท่าไร แต่ที่น่าตกใจก็คือบางคนเหลือแค่ ๔๐ กว่าเท่านั้น จึงต้องผลัดกันดมออกซิเจนถังใหญ่ จนกว่าออกซิเจนในเลือดจะมากกว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์จึงจะปล่อยให้ผ่านไปได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2023 เมื่อ 22:00
|