ในส่วนนี้จะไม่ขอกล่าวถึงอีก ขอไปกล่าวถึงในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีโยมท่านหนึ่งนำนาคบาศก์มาถวาย ก็คือเป็นงูเห่า ๒ ตัวกลืนหางกัน กระผม/อาตมภาพเห็นปุ๊บก็ฟันธงเลยว่า "ของปลอม" หลังจากที่อุทิศส่วนกุศลให้กับงูทั้งสองตัวแล้ว ให้พระท่านนำไปฌาปนกิจเสียในเตาเผาของทางวัด..!
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ อยากจะบอกกล่าวเป็นครั้งที่ ๙๐๐ ก็ว่าได้..! ว่าญาติโยมทั้งหลาย ถ้าหากว่าไม่ได้ศึกษามาในเรื่องของพระเครื่องหรือว่าเครื่องรางของขลัง อย่าได้ไปใช้สายตาตัวเองคิดว่าใช่ คาดว่าใช่ หรือไปฟังเรื่องราวประกอบการขาย ที่บรรดานักเล่นในวงการเขาใช้คำว่า "นิทาน" แล้วท่านก็ไปหลงคารม จ่ายเงินซื้อเขามาแพง ๆ กระผม/อาตมภาพอยากจะยืนยันว่า วงการนี้สกปรกกว่าที่ท่านทั้งหลายจะคิด..! เนื่องเพราะว่าหากมีบุคคลต้องการสิ่งหนึ่งประการใด เพียงไม่นานเขาทั้งหลายเหล่านั้นก็จะทำสิ่งนั้นขึ้นมา
โดยเฉพาะที่พบมาก็คือครุฑ แต่ว่าความจริงแล้ว เป็นการนำไก่มาถอดปากออก แล้วนำเอาปากเหยี่ยวหรือนกอินทรีใส่เข้าไปแทน นำเอากรงเล็บของนกเหยี่ยวหรือนกอินทรีใส่เข้าไปแทน แล้วก็อ้างว่าเป็นพญาครุฑจากป่าหิมพานต์ ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายควรที่จะทราบว่า พญาครุฑนั้นมีร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬารมาก แค่ขยับปีกครั้งเดียวก็ไปไกลถึง ๑๖ กิโลเมตร ดังที่ในกลอนกล่าวเอาไว้ว่า พระบินหนักกวักละโยชน์ด้วยฤทธี จึงจักข้ามนทีสีทันดร ซึ่งถ้าหากว่าพญาครุฑตัวแค่ไก่บ้าน แล้วจะขยับปีกอย่างไรให้ครั้งหนึ่งไปได้ไกลถึง ๑ โยชน์หรือว่า ๑๖ กิโลเมตร ?
โดยเฉพาะพญาครุฑนั้น ขนมีสีแดงเจิดจ้า เป็นสีแดงที่อธิบายได้ใกล้เคียงที่สุดว่าเป็นสีโลหะที่หลอมละลาย ก็คือเป็นสีแดงอมทอง ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าเคยไปร่วมหล่อพระ หล่อโลหะ แล้วเห็นโลหะที่หลอมละลาย ก็จะรู้ว่าสีที่กระผม/อาตมภาพพูดนี้คือสีอย่างไร ไม่ใช่สีเหมือนกับไก่บ้าน นี่เป็นประการหนึ่ง
อีกประการหนึ่งก็คือบุคคลที่โดนหลอกให้ซื้อหากระดูกซี่โครงวัว แล้วเขาอ้างว่าเป็นงาช้างน้ำ ซึ่งความจริงแล้วเป็นกระดูกซี่โครงคู่สุดท้ายของวัว ที่เขาเลื่อยออกมาจากกระดูกซี่โครง นำมาทับให้ตรงแล้วก็ขาย โดยอ้างว่าเป็นงาช้างน้ำ แต่ถ้าท่านสังเกตจะเห็นว่าโคนกระดูกนั้นจะเป็นสี่เหลี่ยม ถ้าหากว่าเป็นงาช้างน้ำที่ถอดออกมาอย่างแท้จริงนั้น ย่อมอยู่ในลักษณะกลม ถ้าโดนเลื่อยออกมา หน้าตัดก็จะกลมและตัน แต่ถ้าหากว่าเป็นงาที่โดนถอดทิ้ง ข้างในก็จะกลวง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2023 เมื่อ 01:48
|