ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 20-04-2023, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,696
ได้ให้อนุโมทนา: 152,041
ได้รับอนุโมทนา 4,417,989 ครั้ง ใน 34,286 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพรับสังฆทานและตอบปัญหาธรรมอยู่ที่บ้านเลขที่ ๗๗/๒ ซอยโบฟอร์ต ๑ หมู่บ้านกุลพันธ์วิลล์ โครงการ ๙ ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่

ในที่นี้มีเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือ มีญาติโยมท่านหนึ่งมีปัญหาในการทำกิจการ แล้วท่านก็เที่ยวไปสอบถามบรรดาพระเถระครูบาอาจารย์หลายต่อหลายรูป โดยที่ท่านใช้คำว่า "พระเถระรูปนี้เป็นพระอรหันต์ ผมมั่นใจ..เพราะว่าผมคิดอะไรอยู่ในใจท่านรู้ไปหมด"

เรื่องนี้จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ถ้าหากว่าเราดูจากในพระไตรปิฎก เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทรุดพระองค์ลงกราบนักบวชเชนซึ่งกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังเขตแคว้นแห่งหนึ่ง พลางกล่าวว่า "พระคุณเจ้าทั้งหลายเหล่านี้เป็นพระอรหันต์" องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ดูก่อนมหาบพิตร บุคคลผู้ยังเสพกาม นอนเบียดกับมาตุคามอย่างพระองค์ท่าน จักไปรู้ได้อย่างไรว่าผู้ใดเป็นพระอรหันต์ผู้หมดแล้วซึ่งกิเลส" พระเจ้าปเสนทิโกศลจนแต้ม จึงต้องยอมสารภาพว่า นักบวชเหล่านั้นเป็นจารชนที่พระองค์ให้ปลอมตัวไปสืบข่าวตามเขตแคว้นต่าง ๆ

นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนที่สุดว่า บุคคลธรรมดาจะไปบอกว่าผู้นั้นเป็นพระอริยเจ้า ผู้นี้เป็นพระอรหันต์นั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะว่าตนเองเรียนอยู่ชั้นอนุบาล จะไปยืนยันว่าท่านนี้จบปริญญาตรี ท่านนี้จบปริญญาโท ท่านนี้จบปริญญาเอก จะเอาความรู้ที่ไหนไปยืนยัน ว่าท่านนั้นท่านนี้จบชั้นใดได้ ?

ส่วนในเรื่องของการรู้ใจคนอื่น คือเจโตปริยญาณนั้น บุคคลที่เข้าถึงโลกียฌานธรรมดาก็สามารถทำได้ แล้วบรรดาพระโสดาบันก็ดี พระสกทาคามีก็ดี พระอนาคามีก็ดี ตลอดจนกระทั่งถึงพระอรหันต์ก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกท่านจะรู้กำลังใจของคนอื่น

เนื่องเพราะว่าพระอรหันต์ก็ยังมีอยู่ถึง ๔ ประเภท ได้แก่ สุกขวิปัสสโก เป็นผู้ที่บรรลุธรรมโดยไม่มีคุณวิเศษอื่น ๆ ประกอบ เตวิชโช เป็นผู้บรรลุธรรมพร้อมด้วยความสามารถพิเศษ ๓ ประการ ก็คือระลึกชาติได้ รู้ว่าคนและสัตว์ก่อนเกิดมาจากไหน ตายแล้วไปไหน และทำกิเลสให้สิ้นไปได้

เราจะเห็นว่าแม้แต่ในระดับวิชชา ๓ ก็ไม่ใช่บุคคลที่มีความสามารถในการรู้ใจคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ท่านก็เป็นพระอรหันต์เช่นกัน หลังจากนั้นก็เป็นพระอรหันต์อภิญญา ๖ และปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ทั้งสองประเภทนี้จึงสามารถที่จะรู้ใจคนอื่นได้

แม้พระอริยเจ้าเบื้องต้นอย่างพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี ถ้าไม่ได้มีวิสัยมาด้านอภิญญา ๖ และปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ก็ไม่สามารถที่จะรู้ใจผู้อื่นได้เช่นกัน

ดังนั้น..การที่โยมท่านนั้นไปฟันธงว่าพระรูปนั้นเป็นพระอรหันต์ พระรูปนี้เป็นพระอรหันต์ จึงเป็นในลักษณะของ "ตาบอดสอดตาเห็น" โอกาสที่จะผิดพลาดย่อมมีเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์..! จึงเป็นเรื่องที่ญาติโยมทั้งหลายจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวังเอาไว้ เพราะว่าสมัยนี้ "พระอรหันต์ลูกศิษย์ตั้ง" นั้นมีมากต่อมากด้วยกัน ถ้าหากว่าเป็นสมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านก็ใช้คำว่า "พระกังหัน" ก็คือยังหมุนไปหมุนมาอยู่เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2023 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา