ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 12-04-2023, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมท่านหนึ่งขอถวายเงินจำนวนหลายล้านบาท เพื่อร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่หน้าตัก ๒๑ ศอกหน้าวัดท่าขนุน เฉพาะองค์พระก็ประมาณ ๓ ล้านบาท รวมตัวอาคารด้วยอะไรด้วยก็หมดไป ๑๗ ล้านกว่าบาท เขาปวารณาถวาย อาตมภาพบอกยังไม่รับ กลับไปคิดให้ดีก่อนหนึ่งอาทิตย์ ถ้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน หรือว่าคนในครอบครัวรอบข้างไม่มีความจำเป็นจะใช้เงินก้อนนี้ แล้วค่อยมาถวาย

เขาหายไปหนึ่งอาทิตย์แล้วกลับมา ยืนยันว่า "ไม่มีความจำเป็นครับ เงินก้อนนี้เป็นเงินที่สามารถถวายทำบุญได้" ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพถึงได้รับเอาไว้ ก็แปลว่าถ้าหากว่าจะทำบุญกับวัดท่าขนุน ถือเงินมาส่งเดช อาจจะโดนไล่กลับบ้านไป แล้วก็โดนไล่ไปหลายรายแล้ว..!

โดยเฉพาะพวกที่อยู่ ๆ ก็แบกผ้าป่ามา ไม่ได้บอกไม่ได้กล่าว อยู่ ๆ ก็ไปทำผ้าป่า แล้วก็แบกมาถึงวัด บอก "มึงจะไปถวายวัดไหนก็ไป วัดนี้ไม่รับ เพราะว่ากูไม่ได้สั่ง..!" เพราะว่ากำลังใจของญาติโยมที่ประกอบไปด้วยบุญด้วยกุศลอย่างเดียว บางทีก็อยู่ในลักษณะ "อธิโมกขสัทธา" เป็นศรัทธาที่ไม่มีปัญญาประกอบ เกิดความศรัทธาขึ้นมาก็ทุ่มเทหมดตัว บางทีก็ไม่ได้นึกว่าตนเองและคนรอบข้างจะเดือดร้อนหรือเปล่า ?

การทำบุญในลักษณะนี้ พระพุทธเจ้าไม่ได้สรรเสริญ พระองค์ท่านบอกว่าอามิสทาน คือทานที่เป็นข้าวของเงินทองนั้น แม้ว่าสำคัญ แต่ว่าธรรมทานสำคัญกว่า ก็คือการให้ธรรมเป็นทาน

ในเมื่อญาติโยมถึงเวลาเกิดศรัทธาขึ้นมา ไม่ใช่เราเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชีหรือฆราวาสอยู่วัด ก็รีบไปยุให้เขาถวายเยอะ ๆ ประมาณว่าถวายเท่านี้จะได้อยู่ชั้นจาตุมหาราช ถวายเท่านี้จะได้อยู่ชั้นดาวดึงส์ ถวายเท่านี้จะได้อยู่ชั้นยามา ถวายเท่านี้จะได้อยู่ดุสิตบุรีเฟส ๔ กูจะบ้า..!

สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนท่านไม่ได้สอนอย่างนั้น ท่านให้ทานเพื่อตัดความโลภ ดังนั้น..
การทำทานจึงไม่ใช่การถวายทีละมาก ๆ แต่เป็นการทำบ่อย ๆ ทำน้อยแต่บ่อยครั้ง กำลังใจจะตัดละได้ง่ายกว่า เพราะว่าของไม่มาก เราไม่หวง เมื่อทำไปหลาย ๆ ครั้ง สภาพจิตเริ่มเข้มแข็งขึ้น มีอำนาจเหนือความโลภ ก็จะถวายได้มากขึ้น บ่อยขึ้น แต่ก็ต้องมีปัญญาประกอบด้วยว่า ถวายไปแล้วตัวเราและคนรอบข้างจะเดือดร้อนหรือเปล่า ? ยังมีบุคคลที่จำเป็นที่จะต้องใช้ทรัพย์สินเงินทองตรงนี้หรือไม่ ? เพราะว่าสูงกว่านั้นขึ้นไปยังมีการรักษาศีล ซึ่งอานิสงส์มากกว่าการทำทานเป็นร้อยเท่า สูงกว่าศีลก็ยังมีภาวนา ที่อานิสงส์มากกว่าการรักษาศีลเป็นร้อยเท่า..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-04-2023 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา