ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 09-04-2023, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนหลวงพ่อชลอนั้นท่านมีโรคพิเศษ ก็คือเป็นงูสวัดแถวบริเวณเอว อยู่ในลักษณะที่คนโบราณเรียกว่า "สังวาลพระอินทร์" ก็คือจะกินสะพายแล่งรอบลำตัว ยังดีที่หลวงพ่อชลอท่านรู้ตัวและรักษาทัน แต่ขนาดนั้นปลายประสาทก็โดนกินจนเสียหาย แม้ว่าบาดแผลภายนอกจะหายดี แต่ข้างในก็ยังมีอาการเจ็บแสบแปลบปลาบเหมือนโดนไฟลวกอยู่บ่อย ๆ ลักษณะบอกให้เห็นชัดว่าปลายประสาทชำรุดไปเรียบร้อยแล้ว..!

หลวงพ่อชลอยังขอบอกขอบใจกระผม/อาตมภาพอยู่ ว่าไปช่วยประกาศให้หมู่ลูกศิษย์ได้ทราบ ก็เลยมีคนแวะไปถามไถ่อาการเจ็บไข้ได้ป่วย และถวายสังฆทานกับท่านเป็นจำนวนมาก โดยที่ท่านใช้คำว่า "ในเมื่อพี่ไม่ได้เรื่อง ก็ต้องอาศัยน้องแบบนี้ต่อไป"

กระผม/อาตมภาพเองก็ยังขำอยู่ เนื่องเพราะว่าในช่วงที่อยู่ด้วยกันนั้น แต่ละคนจะรู้ว่าใครมีฝีมือในระดับไหน ถ้าหากว่าผู้ที่มาฝึกมโนมยิทธิแล้ว หลวงพ่ออาจินต์ (พระครูภาวนาธรรมนิเทศก์) เอาไม่อยู่ ก็จะมาตามท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัยไปจัดการให้ ถ้าหากว่าท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัยไปแล้วยังเอาไม่อยู่ หลวงพ่ออาจินต์ท่านก็จะขับรถมาพร้อมกับท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย มาตะโกนเรียกหากระผม/อาตมภาพที่เข้าเวรอยู่หน้าตึกของหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า "เล็กโว้ย..ทิ้งงานมาหน่อย ไอ้พวกเรือเกลือมาอีกแล้ว..!"

คำว่า "เรือเกลือ" ในที่นี้เป็นที่เข้าใจกันว่า ส่วนใหญ่ท่านทั้งหลายนั้นปรารถนาพุทธภูมิ ในเมื่อเป็นบุคคลที่มาในสายที่ต้องไปเป็นครูบาอาจารย์คนอื่นก็ต้องการรายละเอียดให้มากที่สุด เพื่อถึงเวลาจะได้สั่งสอนคนอื่นเขาต่อได้

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่ว่าฝึกมโนมยิทธิแล้วไม่ได้ หากแต่ว่าฝึกได้ แต่ต้องการรายละเอียดเป็นอย่างยิ่ง ชนิดที่รายสุดท้ายที่หลวงพ่ออาจินต์ขับซูซูกิคาริเบียนคันที่กระผม/อาตมภาพเรียกว่า "ไอ้เหลือง" มารับไปช่วยดำเนินการให้นั้น ท่านต้องการรายละเอียดถึงขนาดว่าบันไดขึ้นพระจุฬามณีมีกี่ขั้น ก็ค่อย ๆ เดินนับไป..!

บางทีกระผม/อาตมภาพเองก็อยู่ในลักษณะใจร้าย ประมาณว่า "ถ้าหากว่าหลวงพี่จะค่อย ๆ นับขั้นบันได ก็นิมนต์นับไปนะครับ ผมไปละ..!" ดังนั้น..จึงทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องละความสนใจจากตรงหน้า เพื่อที่จะเข้าไปกราบพระเกศาธาตุ ตลอดจนกระทั่งพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วภายในพระจุฬามณีเสียก่อน ซึ่งคนอื่นไม่ค่อยที่จะกล้าไปดุ ไปว่า หรือว่าไปดึงให้ท่านเร็วขึ้น เนื่องเพราะเกรงว่าจะเป็นบาปเป็นกรรมกัน

แต่กระผม/อาตมภาพถือว่า "ขึ้นจากน้ำมาแล้ว ไม่กลัวเปียกฝน" ตัวเองสร้างบาปสร้างกรรมเอาไว้มากมายมหาศาล ถ้าหากว่าเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหนึ่งก็ไม่ได้รู้สึกว่ามากขึ้น หรือว่าลดลงไปหน่อย ก็ไม่ได้รู้สึกว่าน้อยลง จึงค่อนข้างที่จะกล้าทำในสิ่งที่สุ่มเสี่ยงมากในสายตาท่านอื่น ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2023 เมื่อ 01:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา