ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 01-04-2023, 01:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,192 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาสามเณรทั้งหลายฟังแล้วก็คงจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วบรรดาวิทยากรต่าง ๆ ในงานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนนั้น มักจะใช้ภาษาที่เป็นทางการบ้าง ปนภาษาบาลีเป็นจำนวนมากบ้าง ทำให้บรรดาสามเณรภาคฤดูร้อน โดยเฉพาะในส่วนของอำเภอทองผาภูมิ ที่ประกอบไปด้วยคนต่างด้าวเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวมอญ พม่า กะเหรี่ยง ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้มีความคล่องตัวในภาษาไทยมากนัก

โดยเฉพาะเด็กรุ่นหลัง ๆ ต่อให้เป็นคนไทย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถที่จะตกภาษาไทยได้เช่นกัน เนื่องเพราะว่าขาดการศึกษาอย่างจริงจัง จึงทำให้บรรดาวิทยากรพูดไปแล้ว ก็เหมือนกับลมผ่านหูไปเฉย ๆ เพราะว่าสามเณรทั้งหลายซึมซับเข้าไปได้น้อยมาก

กระผม/อาตมภาพจึงต้องใช้คำพูดและการเปรียบเทียบง่าย ๆ ให้สามเณรรู้ว่า จำเป็นอย่างไรถึงต้องรักษาศีลเอาไว้ ถ้าหากว่าทำได้บริสุทธิ์บริบูรณ์เท่าไร ตัวเราเองได้บุญได้กุศลมากเท่านั้น พ่อแม่ของเราก็ได้มากพอกัน บรรดาญาติพี่น้องที่มาร่วมอนุโมทนาก็จะได้อานิสงส์ในผลบุญเหล่านั้นไปด้วย

หลังจากนั้นแล้วกระผม/อาตมภาพก็มอบหมายให้พี่เลี้ยง นำสามเณรทั้งหลายไปตักอาหารเพลรอเอาไว้ เมื่อพร้อมแล้วทำการพิจารณาอาหารและเริ่มฉัน ซึ่ง
โดยปกติแล้วการฉันของพระภิกษุสงฆ์นั้น ทางวัดท่าขนุนถืออาสนะเดียวเป็นปกติ ก็คือถ้าลุกขึ้นก็แปลว่าเลิกกันไปเลย

แต่เนื่องจากว่าสามเณรนั้นเป็นเด็ก ถ้าหากว่าไม่ปล่อยให้ฉันอย่างเต็มที่ ก็อาจจะมีปัญหาเหมือนอย่างปีก่อน ๆ คือสามเณรหลายรูปก็ต้องตื่นขึ้นมากระซิบกระซาบคุยกันกลางดึก เพราะว่าท้องว่างแล้วนอนไม่หลับ เมื่อนอนไม่หลับก็ต้องหาเพื่อนคุย จึงทำให้พรรคพวกเพื่อนฝูงพลอยไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้กระผม/อาตมภาพจึงอนุญาตให้สามเณรทั้งหลาย ถ้าหากว่าฉันแล้วไม่อิ่ม สามารถลุกขึ้นไปตักอาหารเพิ่มเติมได้

โดยเฉพาะวันนี้ บรรดาเจ้าภาพต่างนำเอาภัตตาหารอย่างชนิดดีเลิศมา เพื่อที่จะถวายแก่พระภิกษุและสามเณร ไม่ว่าจะเป็นต้มแซ่บซี่โครงอ่อน หรือว่าไก่ทอดก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ชอบเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าบรรดาผู้ที่ชราแล้วอย่างกระผม/อาตมภาพนั้น ถ้าไม่ใช่เป็นผู้ที่รู้จักประมาณในการกิน เผลอฉันมากเกินไปเมื่อไร ก็อาจจะก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย

โดยเฉพาะส่วนที่ต้องกำชับพระพี่เลี้ยงทั้งหลายก็คือ ถ้ามีสามเณรที่เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องให้รีบแจ้งแก่พระพี่เลี้ยง เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือแก้ไข จ่ายยากันให้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะมีการติดหวัด หรือว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ พาให้เดือดร้อนกันไปทั้ง ๖๐ กว่ารูป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-04-2023 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา