ตอนที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ วันตรุษไทยเขาทำบุญกัน ๔ วัน ก็คือวันแรม ๑๓ ค่ำ ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ และวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ พอสงกรานต์ก็ทำบุญ ๕ วัน ซึ่งเรื่องนี้สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังอยู่ที่วัดท่าซุง ท่านมัคคนายกสง่า สาโรจน์ เป็นผู้รู้ดีในพิธีกรรมต่าง ๆ จะขอทำบุญตรุษไทย ๔ วัน สงกรานต์ ๕ วัน หลวงพ่อฤๅษีฯ บอกว่า "โคตรแม่มึงตาหง่าไปทำเองก็แล้วกัน พระมีงานอื่นต้องทำ"
ก็คือเรื่องนี้เป็นความเพี้ยนจากสิ่งที่เขาพูดสั้น ๆ เพื่อให้จำง่ายว่า ตรุษ ๔ สงกรานต์ ๕ สารท ๑๐ ก็คือตรุษจะเป็นวันสิ้นเดือน ๔ สงกรานต์เป็นวันกลางเดือน ๕ และสารทเป็นวันสิ้นเดือน ๑๐ คนที่ไม่เข้าใจความหมายตรงนี้ ก็เลยไปทำบุญ ๔ วัน ๕ วัน ยังโชคดีที่วันสารทไม่ทำบุญ ๑๐ วัน ไม่อย่างนั้นพระเจ้าไม่ต้องทำมาหากินอะไรหรอก รอสวดมนต์รับภัตตาหารจากโยมอย่างเดียวเท่านั้น
คราวนี้ค่านิยมของวันตรุษไทยนั้นจะต้องมีขนม ๒ อย่างเป็นหลัก ก็คือข้าวเหนียวแดง กับกาละแม ซึ่งถ้าหากว่าบ้านไหนมีลูกสาวสวยก็เหนื่อยน้อยหน่อย เพราะว่าบรรดาหนุ่ม ๆ แห่กันมาทั้งหมู่บ้านหรือทั้งตำบล..! มาช่วยงาน ไม่ว่าจะขูดมะพร้าว คั้นกะทิ ผ่าฟืน กวนข้าวเหนียวแดง กวนกาละแม
ถ้าอยากรู้ว่ากาละแมกวนแล้วลำบากยากเข็ญขนาดไหน ก็ต้องกวนกันจนกะทิแห้ง กระทะใบบัวใหญ่ ๆ กะทิเกือบเต็มกระทะ กวนจนแห้ง เล่นกันข้ามวันข้ามคืน แต่ก็เป็นโอกาสเดียวที่หนุ่มสาวสมัยนั้นจะใกล้ชิดกัน เพราะว่าพ่อแม่จะไม่ห้าม ไม่อย่างนั้นแล้วโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกันอีกที ก็ต้องตอนไปวัดโน่นเลย..!
สมัยเด็ก ๆ กระผม/อาตมภาพเองโดนพี่สาวเอาไปเป็น "ไม้กันหมา" อยู่เสมอ ก็คือถ้าผู้หญิงออกจากบ้านไป ก็ต้องมีพี่น้องที่เป็นผู้ชายไปด้วย ผู้หญิงสมัยก่อนเขาวางตัวยิ่งกว่าพระสมัยนี้อีก..! ก็คือต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงทุกอย่าง เพราะว่าคนสมัยนั้นรักชื่อเสียงวงศ์ตระกูลมาก ทำอะไรจะไม่คิดถึงเฉพาะความต้องการส่วนตัว แต่จะคิดถึงเรื่องของชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเป็นใหญ่
พี่สาวของกระผม/อาตมภาพมากับเพื่อนผู้หญิง มาเที่ยววัดโกสินารายณ์ที่ท่ามะกา กลับบ้านไปโดนพ่อตีด้วยไม้รวกทั้งท่อน..! ไม่ใช่ไม้เรียว ฟาดเป็นตีวัวตีควายเลย ทั้ง ๆ ที่ไปกับเพื่อนผู้หญิงแท้ ๆ
เพราะฉะนั้น..ในเรื่องพวกนี้ ต้องบอกว่าโบราณเขายังถือเคร่งครัดกันอยู่ ที่ว่าถ้าหากว่าผู้ชายไม่บวช ไปขอเมียบ้านไหนก็ไม่มีใครเขาให้ เพราะเขาถือว่าเป็น "คนดิบ" ยังไม่ผ่านกันการขัดเกลาทางพระพุทธศาสนามาก่อน ซึ่งสมัยนี้ไม่ค่อยจะถือสากันแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2023 เมื่อ 03:08
|