"มัตตัญญุตา จะภัตตัสมิง" พระองค์ท่านสอนว่า ให้ทุกคนรับประทานอาหารแต่พอสมควร ไม่กินล้นกินเกิน ทุกวันนี้พวกเราทั้งหลายเจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนใหญ่ก็เกิดจากอาหารที่กินเข้าไป โดยเฉพาะโรคฮิตทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ไขมัน ความดันอะไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่เกิดจากการไม่รู้จักประมาณในการกินทั้งสิ้น ถ้าหากว่าเรารู้ประมาณในการกิน ร่างกายก็ไม่อึดอัด จะปฏิบัติธรรมอะไรก็สะดวก ไม่ใช่นั่งหลับอยู่ตลอดเวลา
"ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง" วิธีการต่อไป..ท่านบอกว่า ให้นอนให้นั่งในที่อันสงัด ก็คือ..ถ้ารักจะปฏิบัติธรรม ในอันดับแรกต้องปลีกตัวออกจากหมู่ก่อน จะได้ไม่โดนคนอื่นเขารบกวนจนปฏิบัติธรรมไม่ได้ เมื่อเรามีความสามารถมั่นคงแล้ว อยู่ในท่ามกลางคนหมู่มากก็รักษาใจได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วค่อยเลิกในการปลีกตัวออกจากหมู่
"อะธิจิตเต จะ อาโยโค" พระองค์ท่านสอนว่า ให้ทุกคนทำกำลังใจของตนให้มั่นคง คำว่า "มั่นคง" ในที่นี้ อย่างน้อยต้องทรงอัปปนาสมาธิตั้งแต่ปฐมฌานละเอียดขึ้นไป เพราะว่าปฐมฌานหยาบนั้นยังสามารถเสื่อมสลายคลายตัวลงได้ง่าย เมื่อเราทรงฌานไว้ได้ รัก โลภ โกรธ หลง จะโดนกดดับลงชั่วคราว การเบียดเบียนคนอื่นด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจก็จะหมดไปโดยอัตโนมัติ ก็เหลืออยู่แค่เราเอาสติตามประคององค์สมาธิเอาไว้ ไม่ให้เคลื่อนไม่ให้คลายไปไหน ยิ่งจิตของเราอยู่กับสมาธิมากเท่าไร ความผ่องใสก็มีมากเท่านั้น เราจะเกิดปัญญาญาณ เห็นช่องทางว่าจะดำเนินชีวิตในทางโลกอย่างไร จึงจะอยู่ในศีลกินในธรรมได้โดยที่ไม่กระทบกระทั่งกับคนอื่น เราจะพิจารณาข้อธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไร จึงจะเห็นได้ชัดเจนและยอมรับว่าเป็นความจริงตามนั้น
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 09-03-2023 เมื่อ 08:11
|