ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 02-03-2023, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,636 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..สมัยก่อนจึงนิยมว่า "ให้บวชก่อนเบียด" ก็คือบวชแล้วค่อยไปแต่งงานมีครอบครัว แล้วการบวชสมัยก่อนก็นิยมบวชเอาพรรษา เพราะว่าการที่เราต้องอดทนอดกลั้นอยู่ในกรอบ อยู่ในระเบียบตลอดระยะเวลาหนึ่งพรรษา ถ้าสามารถผ่านพ้นไปด้วยดี เขาจึงจะเชื่อว่าเรามีวุฒิภาวะและความอดทนอดกลั้นเพียงพอที่จะมีครอบครัวได้

ในสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ ถ้าคนไหนไม่บวช ก็คงได้แต่ไปขอเมียต่างบ้านต่างเมืองโน่น คนหมู่บ้านเดียวกัน ตำบลเดียวกัน อำเภอเดียวกัน ไม่ต้องไปหวัง เขาใช้คำว่า "คนดิบ" ก็คือยังไม่สุกพอที่เขาจะยกลูกยกเมียให้ไปดูแล

เรื่องของการที่พวกเรามาฝึกฝนตนเอง จึงเป็นเรื่องที่จะต้องพบกับการกระทบกระทั่งอยู่ตลอดเวลา ใหม่ ๆ ก็เหมือนกับสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ โยนโครมลงไปก็ตายนิ่งอยู่ตรงนั้น เราต้องค่อย ๆ ขัดเกลาตัวเอง จนกระทั่งเหลี่ยมมุมเล็กลงไปเรื่อย ๆ ถ้าสามารถขัดจนกระทั่งกลายเป็นกลมเกลี้ยง กลิ้งไปทางไหนก็ได้ ถ้าอย่างนั้นถึงจะถือว่าใช้ได้ เพียงแต่ว่าของเรามีศีลเป็นกรอบ กลิ้งไปถึงกรอบก็กลับมาเสียดี ๆ ละเมิดกรอบเมื่อไร ความซวยจะมาเยือน..!

ในเรื่องของการประพฤติปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือว่าเป็นพระภิกษุสามเณรก็ตาม ทำอย่างไรที่เราจะรักษาใจของตนเองให้ได้เหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัวหรือใบบอน ไม่ว่าจะกลิ้งไปมุมไหนก็ไม่ได้ติดอยู่เลย เป็นเรื่องที่พวกเราต้องหามุม หาที่ หาทาง เข้าถึงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ประมาณว่า "วางได้ก่อนก็สบายก่อน" แต่อย่าไป "วางใส่หัวคนอื่น" ต้องระมัดระวังอยู่เสมอว่า กาย วาจา ใจ ของเราจะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นเขาหรือเปล่า ? ยิ่งถ้าใครมีเป้าหมายว่าบวชแล้วจะอยู่นาน ก็ยิ่งต้องขัดเกลาตนเองให้ดีที่สุด

เคล็ดลับอยู่ตรงคำว่า "ธรรมดา" กระทบกระทั่งกับใครก็ตาม ให้รู้สึกทันทีว่าธรรมดาของการเกิดมาต้องเจอกับเรื่องอย่างนี้ หรือถ้าหากว่ายังโกรธอยู่ ก็ธรรมดาที่กูเกิดมาเจอกับมึง จึงต้องเจอเรื่องอย่างนี้ ทำอย่างไรให้ลงคำว่าธรรมดาให้ได้ ถ้าสามารถเข้าถึงคำว่าธรรมดาได้ สามารถเป็นได้ตั้งแต่ปุถุชนยันพระอริยเจ้าเลย..!

เพียงแต่ว่าธรรมดาของแต่ละระดับนั้นไม่เท่ากัน ธรรมดาของปุถุชนอาจจะอยู่ระดับแค่นี้ ของกัลยาณชนสูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ของอริยชนสูงขึ้นไปกว่านั้นอีก จนกระทั่งของพระอรหันต์ ถึงจะธรรมดาจริง ๆ เพราะว่าวางทิ้งหมดทุกอย่างแล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-03-2023 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา