วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องทำพิธีบวงสรวงปลุกเสกวัตถุมงคล ซึ่งสร้างจากยาวาสนาจินดามณี ตลอดจนกระทั่งยาเม็ดวาสนาจินดามณี ให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ซึ่งท่านได้นิมนต์เอาไว้ ๒ วาระ ก็คือในวาระของการกดพิมพ์นำฤกษ์ในวันนี้ และในวาระเสกปิดหลังจากที่ปั้นเม็ดยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ในปัจจุบันนี้การปั้นเม็ดยาวาสนาจินดามณีนั้นมีขนาดเท่ากันทุกเม็ด เพราะว่าเมื่อผสมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มอบให้กับโรงงานที่มีเครื่องปั๊มเม็ดยาผลิตต่อให้ โดยที่กำชับว่าอย่าให้มีเศษเหลือ ก็คือไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็ให้เก็บรวบรวมมาปั๊มเป็นเม็ดยาให้หมด
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวัสดุบางอย่าง อย่างเช่น งาช้างกำจัด เห็ดน้ำนมเสือ อำพันทอง ตลอดจนกระทั่งนอแรดนั้น หายากขึ้นทุกวัน บางอย่างราคาแพงกว่าทองเสียอีก จึงเป็นเรื่องที่มีโอกาสแล้วต้องรีบทำเอาไว้ และจะให้สิ้นเปลืองไม่ได้โดยเด็ดขาด
เพียงแต่ว่าพิธีวันนี้นั้น กระผม/อาตมภาพขอให้ทำเช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพต้องไปร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ระดับต้นแบบทั่วประเทศที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) เกรงว่าถ้าช้าแล้วจะไปลงทะเบียนไม่ทัน
เนื่องจากว่าในตำแหน่งที่ ๓๐ กว่าของกระผม/อาตมภาพที่จะหล่นลงมา ไม่ทราบว่าเป็นตำแหน่งที่ ๓๓ หรือว่า ๓๔ นั้น กระผม/อาตมภาพมีท่าว่าจะต้องเป็นคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในหนกลาง ก็คือต้องดูแลเกี่ยวกับงานหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ใน ๒๓ จังหวัดของหนกลาง ดังนั้น..การไปครั้งนี้จึงไปทำหน้าที่ในขณะที่รอคำสั่ง ซึ่งลงพระนามโดยสมเด็จพระสังฆราชจะตกลงมาถึง จึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้
เมื่อทำพิธีบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย กราบขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นครูหมอ ครูยา โดยมีท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นที่สุด ขอให้ช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ยาวาสนาจินดามณีนี้ ไม่ว่าจะในรูปแบบของวัตถุมงคลก็ดี ในรูปแบบของเม็ดยาก็ตาม ให้มีอานุภาพเช่นเดียวกับที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยกระทำมา
ไม่ว่าตั้งแต่ยุคของหลวงปู่มหาเถรคันฉ่อง หรือว่าหลวงปู่สมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่ใบ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ตลอดจนกระทั่งหลวงปู่อยู่ วัดท่าเสาก็ตาม ขอบารมีครูบาอาจารย์ทั้งหลายอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้เต็มที่เต็มทางเหมือนอย่างสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2023 เมื่อ 03:42
|