วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตั้งแต่เช้า กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังศูนย์สุขภาพพระสงฆ์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลวังด้ง หมู่ที่ ๑ ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนำชาวคณะชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทยไปมอบปัจจัยจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ให้กับพระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเอาไว้สร้างเรือนไม้ไผ่ลานธรรมลานปัญญา เพื่อใช้ในการอบรมเด็ก ๆ และจัดนิทรรศการต่าง ๆ
หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ถนนลาดหญ้า - ศรีสวัสดิ์ หมู่ที่ ๒ ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นำชาวคณะรักษ์ธรรมรักษ์ไทย พร้อมด้วยสิ่งของจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องเขียน เครื่องกีฬา อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเด็ก ตลอดจนกระทั่งน้ำดื่ม ไปมอบให้กับเด็ก ๆ จำนวน ๑๓๐ คน ซึ่งทางด้านโรงเรียนหมู่บ้านเด็กได้ทำการช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์ให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นมีที่พักพิง มีที่เรียน ตลอดจนกระทั่งมีที่ฟื้นฟูจิตใจของตนเอง
หลังจากที่ได้ให้โอวาทและรับคำกล่าวขอบพระคุณจากเด็ก ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางกลับยังที่พัก คือ วัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) หมู่ที่ ๒ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และไม่ได้กลับมาเฉย ๆ หากแต่ว่าเข้าร่วมงานสานเสวนาทางศาสนา หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ ของ คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในหัวข้อวิทยานิพนธ์ที่ว่า รูปแบบการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในมุมมองศาสนาพุทธเถรวาทและศาสนาคริสต์โปรเตสแตนต์
เมื่อกระผม/อาตมภาพเข้าไปแล้วรู้สึกว่าเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะว่าท่านอาจารย์พระมหาฐานันดร เขมปญฺโญ, ดร. วิทยากรท่านหนึ่งนั้น ท่านอยู่บนดอยเพื่อทำการช่วยเหลือบุคคลผู้ด้อยโอกาส คือบรรดาพี่น้องที่เป็นชาวไทยภูเขา ในบริเวณนั้นมีคลื่นโทรศัพท์น้อยมาก จึงทำให้สัญญาณขาด ๆ หาย ๆ การแสดงความคิดเห็นจึงไม่ค่อยที่จะชัดเจน ทำให้กระผม/อาตมภาพต้องเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย จากคำถามที่ว่า พระพุทธศาสนานั้นเห็นประโยชน์อย่างไรในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ?
ตรงจุดนี้ต้องบอกกล่าวให้ชัดเจนว่า หลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั้นมีอยู่มาก แต่บุคคลที่อ่านพระไตรปิฎกครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วพอที่จะจดจำได้ว่าหลักธรรมทั้งหลายเหล่านั้น เหมาะสมกับกิจการงานด้านใด หรือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ ตลอดจนกระทั่งกาลเทศะลักษณะไหนมีน้อยยิ่งกว่าน้อย..!
ดังนั้น..ในเมื่อมีคำถามเช่นนี้ขึ้นมา แล้วมีการชี้แจงที่อยู่ในลักษณะของการ "ขี่ม้าเลียบค่าย" ก็คือไม่ค่อยที่จะตรงเป้าหมาย กระผม/อาตมภาพจึงต้องให้ความชัดเจนว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น มีประโยชน์หลายต่อหลายประการด้วยกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2023 เมื่อ 02:32
|