คราวนี้การที่กำลังใจของเราสามารถทรงเอาไว้จนกระทั่งงานต่าง ๆ สำเร็จเสร็จสิ้นลงนั้น ท่านทั้งหลายต้องระวังให้มากอีกจุดหนึ่ง ก็คือการที่ถึงเวลารู้สึกว่าหมดงานแล้ว ถ้ากำลังใจคลายตัวออกมา บางคนก็ล้มทั้งยืนเลย..! เราต้องระมัดระวังด้วยว่ากำลังกายไหวหรือเปล่า ? ถ้ารู้ว่ากำลังกายไม่ไหว ก่อนที่จะคลายกำลังใจออกมาก็ให้นั่งลงเสียก่อน หรือว่านอนเสียก่อน แต่ว่าบางทีกำลังใจของเราก็คลายออกมาเอง ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพมีประสบการณ์มาหลายครั้ง
ครั้งที่ออกธุดงค์ครั้งแรกไปยังเมืองลับแลที่แม่สาน ด้วยความที่เกรงว่าเป็นสถานที่อันตราย ทันทีที่มุ่งหน้าเข้าไป กำลังใจก็ทรงตัวเต็มสภาพ ตลอดระยะเวลา ๕ วัน ๕ คืนไม่คลายออกมาเลย แต่เมื่อเดินทางกลับออกมา เริ่มจดจำได้ว่าหนทางตรงนี้ใกล้หมู่บ้าน เราปลอดภัยแล้ว กำลังใจคลายออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ ? เป็นการคลายออกมาเองโดยอัตโนมัติ
แล้วความรู้สึกนึกคิดก็เริ่มปรุงแต่ง โดยที่ตอนนั้นยังเผลอสติ เพราะว่าเพิ่งจะอยู่ในพรรษาที่ ๔ ของการบวชเท่านั้น ก็ไปเที่ยวดูฟ้าดูดิน โดยเฉพาะบรรยากาศยามสายในป่า แสงแดดส่องลอดใบไม้ลงมาเป็นเส้น ๆ แล้วบรรดาหมอกควันจากอากาศหนาวก็พันอยู่กับลำแสง ต้องบอกว่าทิวทัศน์สวยงามมาก ใจก็ไปนึกถึงเพลงในสมัยฆราวาสที่เคยได้ยินมา ถ้าจำไม่ผิดเป็นคุณชรินทร์ นันทนาครร้อง ที่ว่า "ดวงตะวันลับทิวแมกไม้ ใจพี่ก็หาย..หายลับไปกับตะวัน ฯลฯ"
แล้วก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านใดเมตตา ? เห็นพระจะต้องอาบัติเพราะทะลึ่งไปนึกถึงเพลง ก็เลยช่วยถีบ..! ตูมเดียวหล่นลงไปในลำธาร อากาศเดือนพฤศจิกายนกลางป่าเขา หนาวขนาดไหนบอกไม่ถูก !? รู้แต่ว่าต้องเดินสั่นงั่ก ๆ ไปตลอดทาง กว่าที่จะไปถึงหมู่บ้าน
ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มเข็ด รู้จักสังเกตว่ากำลังใจของตนเองคลายออกมาตอนไหน ? แต่ว่าถึงจะสังเกตและระมัดระวัง บางทีด้วยความเคยชินของสภาพจิต พอรู้ว่างานหมดแล้วก็คลายออกมาเลย บางทีก็หลับสลบไสลข้ามวันข้ามคืนไปเลยก็มี
ดังนั้น..จึงขอเตือนท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร หรือว่าฆราวาสนักปฏิบัติธรรม ถ้าทำมาถึงตรงนี้ได้ต้องระมัดระวังไว้ด้วย ต้องมีสติอยู่เสมอว่าเราไหวหรือไม่ ? ถ้ารู้ว่าไม่ไหว อย่าพยายามคลายกำลังใจออกมาก่อน อย่างไรก็ล็อคเอาระดับใช้งานของเราไว้ กลับถึงที่พักก่อนแล้วค่อยเป็นอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกไว้ ก็คือ "หงายแผ่สี่สลึง"..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2022 เมื่อ 03:02
|