ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเข้า วันอาทิตย์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๕
ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ที่นี่เมื่อเราทำสมาธิช่วงเช้ามืดแล้ว จะต่อด้วยการทำวัตร ปรากฏว่ามีน้อยรายที่สามารถรักษาอารมณ์ใจต่อเนื่องได้ในขณะที่ทำวัตร ส่วนใหญ่ก็คือพอเริ่มสวดมนต์ สมาธิก็เริ่มคลายตัว ไปได้หน่อยเดียวก็หลุดหายเกลี้ยงไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่การฝึกฝนในลักษณะนี้ของวัดท่าขนุนมีอยู่ทุกวัน แต่น้อยคนที่จะเข้าใจว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น ? แล้วทำไมถึงทำอย่างนั้นยังไม่พอ ยังไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้อีกด้วย
ช่วงเช้าของเราเป็นการปฏิบัติธรรมด้วยการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ทุกท่านมักจะยึดติดว่าการปฏิบัติธรรมก็คือต้องนั่งหลับตานิ่ง ๆ ถ้าเป็นอาตมภาพก็บอกว่า นั่นเป็นเด็กหัดใหม่ การปฏิบัติธรรมต้องทำได้ทุกอิริยาบถ โดยเฉพาะในขณะเคลื่อนไหว ประกอบกิจกรรมประจำวัน ไม่อย่างนั้นแล้วการปฏิบัติของเราก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะว่าแค่ขยับตัว สมาธิก็คลายหมด กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ประดังกันเข้ามา
ดังนั้น..ในเรื่องของการสวดมนต์ ทำวัตร ถ้าหากว่าทำเป็น จะเป็นเครื่องเสริมในการปฏิบัติธรรมของเราที่ดีมาก เพราะว่าอันดับแรกเลย ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว เราก็จะเผลอสติ สวดผิด
อันดับต่อไปก็คือ ถ้าเราภาวนาจนชินแล้ว คำสวดมนต์ก็คือคำภาวนานั่นเอง เพียงแต่ว่าเป็นคำภาวนาที่ยาวกว่าปกติเท่านั้น
ลำดับต่อไป ถ้าฝึกซ้อมจนมีความคล่องตัวแล้ว เราก็สามารถที่จะภาวนาได้ทั้ง ๆ ที่ทรงสมาธิแนบแน่นอยู่ ตรงจุดนี้พวกเราส่วนใหญ่แล้วยังทำไม่ได้กัน เพราะว่าขาดความคล่องตัว ขาดการฝึกซ้อม
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2022 เมื่อ 02:11
|