แต่ก็อย่างที่พูดไปเมื่อครู่ก็คือ ถ้าเป็นสันดานก็แก้ไขยาก ด่าไป ว่าไป บ่นไป ก็ทำได้แค่ครั้งสองครั้ง ที่เหลือก็กลับไปเหมือนเดิม แล้วในลักษณะอย่างนี้ใครจะมีเวลาไปปากเปียกปากแฉะไปบ่นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะพวกกะโหลกหนาปัญญาทึบ..! บ่นไปว่าไปก็ไม่ซึมไม่ซาบอะไร "ถ้าไม่ได้ออกชื่อก็คือไม่ใช่กู..!" ถ้าในลักษณะอย่างนั้นก็แปลว่า ขาดจิตสำนึกและขาดความปรารถนาในการปรับปรุงตัวเอง
คนที่หวังดีต่อตนเอง รักตัวเอง อยากจะปรับปรุงตัวเอง ต้องคิดอยู่เสมอว่าเราผิด ถ้าหากว่าเราไม่ผิด คนอื่นก็หาที่มาว่าไม่ได้ ก็อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ถ้าหากว่าที่ผิดไม่ได้ ก็ผิดตั้งแต่มึงเกิดมาแล้ว..!
คราวนี้ถ้าหากว่าพวกเราไม่ได้คิดจะแก้ไข สภาพจิตก็จะมืดบอดหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วท้ายที่สุดซึ่งน่ากลัวที่สุดก็คือ พอวาระสุดท้าย กำลังที่ไม่ดีมีมากกว่า ก็จะท่วมทับกำลังใจของเรา โอกาสที่จะไปสุคติก็หมดไป เพราะใจเคยชินกับด้านชั่วมากกว่า ก็จะไหลลงยาวไปเลย..!
ถ้าหากว่าสามารถแก้ไขได้ก็แก้ไข ถ้าแก้ไขไม่ได้ กระผม/อาตมภาพก็จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ถึงเวลาแล้วจะไปเยี่ยม..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2022 เมื่อ 03:00
|