ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 15-12-2022, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,446 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยก่อนมีกำหนดแน่นอน ก็คือปฏิบัติธรรมตั้งแต่วันที่ ๑๖ ธันวาคมของปีเป็นต้นไป แต่คราวนี้ถ้าหากว่าปฏิบัติธรรม ๑๐ วัน ทางด้านกาญจนบุรีของเราก็จะไปชนกับงานทำบุญครบรอบปีมรณภาพของพระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ.๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ในทุกวันที่ ๒๕ ธันวาคมของปี พวกเราจึงเลื่อนมา เริ่มปฏิบัติธรรมในวันที่ ๑๒ เพื่อที่จะให้ครบ ๑๐ วันในวันที่ ๒๒ แล้ว ๒๓ - ๒๔ จะได้มีเวลาเตรียมงาน ๒ วัน แต่ปีนี้ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงได้รีบเร่งในการปฏิบัติธรรม โดยที่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องสำคัญอย่างการรับปริญญาของนิสิตของเรา

ต้องบอกว่า ในเรื่องของการทำงานนั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ การเอาใจใส่ต่อรายละเอียดต่างๆ เพราะว่าวันนี้ที่กระผม/อาตมภาพขึ้นไปที่วัดวังก์วิเวการาม สังขละบุรี เพื่อเยี่ยมนิสิตของเรา ก็ปรากฏว่าเจอกับพระครูต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ท่านก็ขึ้นไปเยี่ยมลูกศิษย์ ก็คือท่านมีลูกศิษย์ที่เรียนอยู่แล้วไปปฏิบัติธรรม ท่านก็ไปเยี่ยม จะว่าไปแล้วท่านเองก็ไม่ได้เป็นครูบาอาจารย์ในวิทยาลัยสงฆ์ แต่ก็ยังมีน้ำใจไปเยี่ยมลูกศิษย์ของตัวเอง

ดังนั้น..ในเรื่องของความละเอียดอ่อนเหล่านี้เป็นเรื่องที่สอนกันยาก ต่อให้จ้ำจี้จ้ำไชเคี่ยวเข็ญ ก็ได้แค่ไม่กี่ครั้ง เพราะว่าไม่ได้เกิดจากน้ำใสใจจริง ในเมื่อธรรมชาติของตนเองไม่ได้ห่วงไม่ได้กังวลคนอื่น หรืออาจจะถึงขนาดไม่เห็นความสำคัญของคนอื่นเลย ก็จะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ จึงทำให้บรรดานิสิตที่เข้ากรรมฐานอยู่รู้สึกเหมือนอย่างกับโดนทอดทิ้งอีกเช่นกัน นอกจากพระวิปัสสนาจารย์แล้ว ก็แทบจะไม่มีครูบาอาจารย์ไปเยี่ยมเยือนเลย แต่ก็ต้องบอกว่าบ่นน้อยใจไปเถอะ ทน ๆ เอา เดี๋ยวก็จบแล้ว..!

โดยเฉพาะพวกเรา บางอย่างเราพูดไปก็ไม่ได้คิด แต่ว่าสร้างความกระทบกระเทือนใจให้กับคนอื่น ในส่วนนี้ในโรงครัวของเราต้องระวังให้มากเข้าไว้ โดยเฉพาะบรรดาแม่ชีของเรา บางทีคำพูดของเราก็หนัก แรง อาจจะต้องบอกว่าเห็นคนอื่นเป็นลูกไล่ โดยที่ลืมไปว่าถ้อยคำบางอย่างนั้นแสดงออกถึงความหยาบในจิตใจของเรา ถ้ากำลังใจแย่มาก สิ่งที่เราพูดออกมาก็หยาบคาย ฟังไม่ได้ แล้วเรื่องของการด่าคนอื่น ว่าคนอื่น ก็เป็นวจีกรรมอีกด้วย

เรื่องของการปกครองต้องมีทั้งพระเดชพระคุณ ไม่ใช่ใช้พระเดชอย่างเดียว ที่จะดุด่าว่ากล่าวแล้วเรื่องราวจะสำเร็จได้ ไม่มีใครไปยินดีกับถ้อยคำที่ดูถูกดูแคลน จนถึงขนาดถ้าเราโดนเองบ้าง เราก็จะรู้สึกว่าไม่ดีเลย แต่เราก็ไปทำกับคนอื่น ถ้าลักษณะอย่างนี้ก็แปลว่าขาดการเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยเฉพาะถ้าหากว่ามีคนเอาเรื่องไม่ดีไปพูดทางด้านนอก ในลักษณะ "ไฟในนำออก" ภาพพจน์ที่คนเขาเคารพนับถือก็จะหมดไป แล้วก็ไปโทษใครไม่ได้ เพราะว่าเป็นการกระทำของตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2022 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา