ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 21-10-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,886
ได้ให้อนุโมทนา: 159,118
ได้รับอนุโมทนา 4,497,447 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นพวกเราก็วิ่งไปยังจุดมุ่งหมายสำคัญของการมาประเทศลาวครั้งนี้ ก็คือพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ หรือที่ชาวลาวเรียกง่าย ๆ ว่า "ธาตุหลวง" หรือ พระธาตุโลกจุฬามณี เมื่อไปถึงที่นั่น ยังไม่ทันที่จะขยับไปไหน ปรากฏว่าบรรดา FC วัดท่าขนุน ที่มีนางน้อยและนางมานิดานำมาที่นี่อีกกลุ่มใหญ่ บอกว่า "มาท่าอาจารย์ตั้งแต่เช้าแล้ว" คำว่า "มาท่า" ก็คือ "มารอ" นั่นเอง

เมื่อได้รับการถวายสังฆทานจากคณะญาติโยมทางเวียงจันทน์นี้แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ผาติกรรมปราสาทผึ้ง ตลอดจนกระทั่งบายศรี ซึ่งคิดแล้วเป็นเงิน ๕๐๐ บาทไทย ถวายบูชาพระธาตุหลวงเวียงจันท์ สวดมนต์ ไหว้พระ อุทิศส่วนกุศลเสร็จเรียบร้อย ก็ลงมานำญาติโยมทั้งชาวไทยและชาวลาว เดินประทักษิณบูชาพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งด้านข้างวิหารคดนั้น มีพระพุทธรูปเก่าแก่งดงามอยู่เป็นจำนวนมาก

ต้องขอชมเชยว่าชาวลาวนั้นเป็นบุคคลที่อยู่ในศีลในธรรมดีมาก ไม่เช่นนั้นแล้วพระพุทธรูปองค์ไม่ได้ใหญ่เกินกำลังแบบนั้น ถ้าตั้งอยู่ในเมืองไทย น่าจะอยู่ได้ไม่ถึงชั่วโมง..! เพราะว่าเป็นของเก่าแก่ ซ้ำยังแท้แน่นอนอีกด้วย..!

แล้วสิ่งหนึ่งที่คิดไม่ถึงก็คือมาเจอพระบรมรูปของ "จอมคนแห่งกัมโพช" ที่อาตมภาพตั้งฉายาให้ หรือว่าสมเด็จพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ผู้ยิ่งใหญ่ทางพระพุทธศาสนาของอาณาจักรขอม ซึ่งรูปสลักหินอันงดงามสมบูรณ์ที่สุดของพระองค์ท่าน กลับมาอยู่ที่พระธาตุหลวงเวียงจันทน์นี่เอง

หลังจากที่ได้ถ่ายรูปหมู่กับบรรดาญาติโยมชาวเวียงจันทน์เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กลับออกมาด้านนอก ปรากฏว่ามีญาติโยมมารออยู่ทางด้านนี้อีก เมื่อรับการทำบุญและถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย พวกเราจึงรีบเผ่นขึ้นรถโดยด่วนจี๋ เพราะว่าถ้าขืนอยู่ก็คงจะมีการโทรศัพท์บอกต่อกันและมามากขึ้นไปเรื่อย ๆ โปรแกรมการที่จะไปร้านสินค้าปลอดภาษีหรือร้านขายเครื่องเงินจึงต้องตัดทิ้งไปโดยปริยาย

พวกเราวิ่งมาประทับตราออกจากประเทศลาวที่บริเวณด่านออกจากนครเวียงจันทน์ แล้วก็ไปทำเรื่องเพื่อที่จะเข้าสู่ประเทศไทย "ท้าวนุ" กราบขอขมาพระและลากันแค่นี้ ช่วงนี้กระผม/อาตมภาพยังกังวลอยู่เหมือนกันว่า อาการบาดเจ็บจากการล้มนั้น น่าจะมีการกระทบกระเทือนถึงประสาท หรือมีเส้นเลือดฝอยในสมองแตก เพราะว่าทำให้หน้าเบี้ยวไปข้างหนึ่ง อาจจะทำให้ไม่สามารถออกจากประเทศลาวได้ เพราะว่าหน้าตาแปลกไปจากเดิม แต่ปรากฏว่า "น้องหนู" เจ้าหน้าที่ชาวลาว อะลุ้มอล่วยให้ออกมาได้

พวกเราวิ่งออกจากทางด้านนครหลวงเวียงจันทน์เข้ามาสู่ประเทศไทย คณะของ "เจ้าลุง" มาส่งถึงตรงเขตแดนนี้ก็ถอนกำลังกลับ อากาศดูมืดฟ้ามัวฝนไปทันตา ทั้งที่เพิ่งจะสี่โมงเย็น แต่ดูเหมือนจวนจะหกโมงเย็นแล้ว ต้องเจริญพรขอบคุณ "เจ้าลุง" และคณะเป็นอย่างยิ่ง ที่เมตตาต่อพวกเรามากมายแบบนี้ ขอให้ทุกท่านมีภพภูมิที่เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด คณะของเราข้ามเข้ามายังหนองคาย วิ่งตรงไปยังอุดรธานี จนกระทั่งมาเช็คอินที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี

ตอนนี้กระผม/อาตมภาพมานั่งอยู่บริเวณที่พักพระสงฆ์ เพื่อรอขึ้นเครื่องกลับสู่สนามบินนานาชาติดอนเมือง จึงฉวยโอกาสนี้ในการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนให้พวกเราได้ฟังในวันนี้แต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2022 เมื่อ 04:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา