ใต้ฟ้าอิระวดี ตอนที่ ๑๑
โซยุนท์มารับตั้งแต่ตีสี่ เอาธงฉัพพรรณรังสีผูกหน้ารถมาด้วย บอกว่าเป็นเครื่องหมายของการไปแสวงบุญ ช่วยให้ผ่านด่านตรวจต่าง ๆ ง่ายขึ้น ท่านอาจารย์ใหญ่เอารองเท้าแบบพม่ามาให้อาตมาเปลี่ยน ขนาดเปลี่ยนจีวรแล้วเชียว แต่จุดเล็ก ๆ แค่รองเท้าที่ไม่เหมือนเขายังสะดุดตาท่านจนได้ กราบขอบพระคุณครับ
รถมาจอดรอแพขนานยนต์เพื่อข้ามอ่าวเมาะตะมะ มาเช้าขนาดนี้ยังต้องเข้าคิวยาวเหยียด รอจนน้ำขึ้นเต็มที่ก่อน แพจึงจะเข้าเทียบท่าได้ ตอนนี้ยังลอยอยู่กลางอ่าว ขนาดใหญ่โตไม่แพ้เรือเฟอรี่ที่เกาะสมุย สองข้างท่าแพเป็นร้านค้าดูคึกคักดีทีเดียว มีอาหารทะเลพวกกุ้งหอยปูปลาตากแห้งเต็มไปหมด
แพขนานยนต์ลอยลำอยู่กลางอ่าวเมาะตะมะ
๐๖.๓๐ น. รถลงแพขนานยนต์ คณะของเราโชคดีที่ได้ไปในเที่ยวแรก มีรถติดธงฉัพพรรณรังสีแบบของเราหลายคัน ทุกคันแออัดยัดทะนานชนิดแทบต้องขี่คอกันไป ไม่มีคันไหนสบายแบบคันของเราเลย เพราะมีแค่พระ ๕ ฆราวาส ๔ ดูโหรงเหรงไปถนัดตาเมื่อเทียบกับคันอื่น ๆ เขา ดูไปแล้วเป็นการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองเป็นบ้าเลย..!
ฝูงนกนางนวลแกลบบินเวียนว่อนตามแพมาเพื่อขออาหาร มีเด็กขึ้นมาขายขนมให้เลี้ยงนก เป็นก้อนคล้าย ๆ ข้าวซอยแห้ง หรือขนมรังนกของบ้านเรา พอบีบแตกเป็นชิ้น ๆ โปรยออกไปเท่านั้น บรรดาพวกพ้องของโจนาธานบินมาโฉบคว้ากันมืดไปหมด ที่ถูกลมตีตกน้ำก็ไม่มีปัญหา พวกมันลงไปลอยคอเก็บกินซะเกลี้ยง..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 17:17
|