[ทัศนะ]

มีเทวดาผู้ชายปรากฏเบื้องหน้าขณะฝึกมโนมยิทธิ ถามว่าท่านชื่ออะไร ท่านบอกว่าชื่อ "สุทัตตะพรหมเมศ" มีความรู้สึกว่าท่านอยู่พรหมชั้นที่ ๑ ท่านบอกว่าเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ให้อุทิศกุศลให้บ้าง นึกถึงท่านบ้าง ลองค้นหาจากชื่อที่ท่านบอกมาพบว่าไปตรงกับนามเดิมของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี แต่ในความรู้สึกก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ท่านเดียวกัน

๑. ควรตั้งคำถามในลักษณะไหน หรือควรตั้งเงื่อนไขไว้อย่างไรถึงจะง่ายต่อการนำมาใช้พิสูจน์ว่าท่านมีอยู่จริง ？

๒. เราอยากพิสูจน์ว่าท่านมีจริงไหม เราจึงขอให้ท่านใช้ฤทธิ์ของพรหม จงประทานโชคจากการค้าขายสินค้าให้เราภายใน ๓ วัน ปรากฏว่าในวันที่ ๓ วันนั้นเป็นวันที่เรามีโชคจริง ๆ แต่เป็นโชคจากการค้าที่เราดำเนินไปแล้วก่อนที่จะขอพรท่าน (สินค้าที่สั่งมาจำหน่ายมาถึงและพร้อมจัดส่งให้ลูกค้าพอดีในวันนั้น) แบบนี้เข้าข่ายโดนเทวดาหลอกหรือไม่ ?

๓. เนื่องจากไม่ทันได้ถามท่านโดยละเอียดแล้ว รอบนี้จึงขอฉวยโอกาสถามหลวงพ่อแทน ว่าที่เห็นนั้นถูกต้องตามความเป็นจริงไหมครับ ?

๔. หลังจากถามชื่อท่าน ทันทีที่ออกจากสมาธิความทรงจำถึงชื่อนั้นแทบจะหายไปในทันที ต้องรีบลืมตาขึ้นมาบันทึกไว้ หลวงพ่อเคยบอกว่าอะไรที่พระ เทพ พรหมเทวดาท่านมาบอก เมื่อออกจากสมาธิมาจะเลือนหายจากใจไปอย่างรวดเร็ว สามารถใช้เงื่อนไขข้อนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ไหมว่านิมิตที่เห็นนั้นมาจากเทพ พรหมเทวดา จริง ๆ ?

๕. นิมิตที่เกิดขึ้นในขณะเจริญพระกรรมฐานหรือในขณะฝึกมโนมยิทธิ มีเข้ามามากมายเหลือเกิน มีวิธีแยกแยะ หรือมีจุดร่วมอะไรที่สังเกตได้ง่ายว่านิมิตนั้นควรให้ความสน ในกรณีที่นิมิตนั้นเป็นนิมิตที่มาเตือน หรือบอกเหตุสำคัญต่าง ๆ ?

๖. ในกรณีอุทิศส่วนกุศลให้กับเทพพรหมเทวดาที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง โดยระบุชื่อเทวดาองค์นั้นอย่างชัดเจน (เหมือนในกรณีนี้) จะมีใครมารับส่วนกุศลแทนไหมครับ ?