ชื่อกระทู้: คิริมานนทสูตร
ดูแบบคำตอบเดียว
  #21  
เก่า 22-02-2010, 12:33
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,321 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๑๐.๑๖ สุขทุกข์อยู่ที่ใจ “ดูกรอานนท์ จิตสุขเป็นสวรรค์ จิตทุกข์เป็นนรก ถ้าอยากได้สุขในพระนิพพาน ต้องวางเสียทั้งสุขและทุกข์ ให้เอาใจวางหรือวางที่ใจ เพราะธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ (เป็นประธาน, มีใจประเสริฐที่สุด) ทุกสิ่งสำเร็จได้ที่ใจ”

๑๐.๑๗ ผู้ที่เห็นจิตผู้อื่นได้ คือพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เท่านั้น มีรายละเอียดที่ควรเขียนให้ทราบโดยย่อดังนี้

ก) อาจมีผู้อื่นซึ่งใช้อำนาจของสมาธิ ทำให้รู้เห็นได้ก็มีอยู่ แต่ไม่แน่นอน มีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ เพราะตัวสมาธิไม่สามารถจะฆ่ากิเลสให้ตายได้ เป็นเพียงแค่ระงับกิเลสไว้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะสมาธิมี ๒ ชนิด คือ มิจฉาสมาธิ หมายถึงสมาธิที่มิได้ตั้งมั่นอยู่บนศีลอันบริสุทธิ์ (อธิศีล) จึงไม่มั่นคง หากศีลข้อใดบกพร่อง สมาธิหรือฌานสมาบัติก็ไม่ทรงตัว หรือเสื่อม เช่น ท่านเทวทัตเป็นต้น อีกข้อหนึ่งคือ สัมมาสมาธิ หมายถึง สมาธิที่ตั้งมั่นอยู่บนศีลอันบริสุทธิ์(อธิศีล) สมาธินี้จึงมั่นคง ไม่มีคำว่าเสื่อม การรู้การเห็นจึงไม่ผิดพลาด (พระอรหันต์เท่านั้นที่ท่านมีครบทั้งอธิศีล อธิจิตและอธิปัญญา)

ข) บุคคลที่รู้เห็นไม่จริงนี่แหละจะเป็นผู้ทำให้ศาสนาของตถาคตเสื่อมลง

ค) บุคคลผู้ทำลายพระพุทธรูป,พระสถูป,พระเจดีย์,ตัดไม้ศรีมหาโพธิ์ เป็นบาปก็จริงแต่มิได้ทำลายพระพุทธศาสนา จึงไม่มีโทษหนักเท่ากับพวกปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา

ง) พวกทำลายพระพุทธรูป สถูป เจดีย์ ยังมีทางเป็นกุศลได้ หากเขาสร้างหรือแก้ไขให้ดีขึ้น สวยขึ้น แม้การตัดต้นโพธิ์ หากขึ้นอยู่ในที่ไม่สมควร เช่นใกล้ถาวรวัตถุ จะตัดเสียก็หาโทษมิได้ บุญบาปอยู่ที่เจตนาของใจ

จ) นักบวชพวกอวดอุตริมนุษยธรรม แสดงธรรมหรือกรรมที่ไม่มีในตน มีโทษถึงขั้นปาราชิกเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง พระองค์ทรงตรัสว่า อุปมาเหมือนโจรมาปล้นพระศาสนาของพระองค์ทีเดียว

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 23-03-2010 เมื่อ 17:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา