สำหรับปีนี้ที่กระผม/อาตมภาพขอให้นักเรียนบาลีวัดท่าขนุนของเราไปทดลองสอบดู ไม่ทราบว่าพวกท่านมีความสามารถเหมือนกระผม/อาตมภาพหรือเปล่า ? ก็คือถ้าได้สอบสักครั้งหนึ่ง จะเข้าใจว่าเขาจะมีแนวการออกข้อสอบแบบไหน ต่อให้ครั้งนี้ตก ครั้งหน้าก็สอบได้อย่างแน่นอน แต่เกรงว่าพวกท่านทั้งหลายจะไม่มีความสามารถตรงนี้ ก็เลยจำเป็นที่พวกเราจะต้องซักซ้อมในการทำข้อสอบให้เคยชินไว้ ถ้าหากว่าบังเอิญไปตรงกับข้อสอบที่ออกได้เลยก็ยิ่งดี
โดยเฉพาะในเรื่องของบาลีไวยากรณ์ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะว่าเป็นพื้นฐานที่เราต้องใช้ตั้งแต่ประโยค ๑ - ๒ ไปถึงประโยค ๙ เลย ยิ่งมีความเชี่ยวชาญในไวยากรณ์มากเท่าไร การเรียนประโยคสูงก็ยิ่งง่ายเท่านั้น
คราวนี้ถ้าเราสอบติดไวยากรณ์ได้ ๑ วิชา ที่เหลือก็รอซ่อมรอบสอง ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ตกแล้วตกเลย จบกันไป รอปีหน้าค่อยสอบใหม่ ช่วงระหว่างรอซ่อม เราจะมีเวลาซักซ้อมประมาณ ๒ เดือน ตอนนั้นค่อยมาซ้อมแปลกัน น่าจะช่วยได้ พวกท่านก็จะเห็นว่ารุ่นพี่ ๆ เขามีการสอบโดยการซ่อมผ่านมาเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นรุ่นกระผม/อาตมภาพนี่ตกแล้วตกเลย..หมดสิทธิ์ด้วยประการทั้งปวง
การเรียนบาลีเป็นเรื่องยาก พระผู้ใหญ่ท่านจึงออกความคิดว่า ถ้าหากว่ามีการซ่อมได้ ก็จะช่วยให้คนได้ประโยคบาลีมากขึ้น แต่ความจริงแล้ว กระผม/อาตมภาพเคยเสนอความคิดไปแล้ว แต่ว่าไม่ได้รับความเห็นชอบ ก็คือให้เรียนบาลีลักษณะของการเก็บหน่วยกิต เรียนขึ้นหน้าไปเรื่อย ๆ ถ้าเก็บหน่วยกิตครบเท่านี้จะได้ประโยค ๑ - ๒ เก็บได้เท่านั้นจะได้ประโยค ๓ ไล่ขึ้นไปเรื่อย ผ่านไปแล้วจบเลย ไม่ต้องเหลียวกลับหลังมาอีก ให้เรียนขึ้นหน้าอย่างเดียว
ถ้าลักษณะนี้ การเรียนบาลีก็จะง่ายขึ้น แต่พระผู้ใหญ่ท่านท้วง โดยใช้คำว่า "ถ้าทำแบบนี้แล้วจะไม่ศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งกระผม/อาตมภาพเอง ไม่เห็นความสำคัญตรงคำว่า "ศักดิ์สิทธิ์" ของการเรียนบาลี
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? ก็เพราะว่าบาลีนั้น แนวการให้คะแนน แนวการตรวจข้อสอบ ไม่เหมือนกับวิชาการทั่วไป วิชาทั่วไปตรวจว่าคุณทำถูกเท่าไร แล้วก็รับคะแนนไปตามนั้น แต่วิชาบาลีตรวจว่าคุณทำผิดเท่าไรถึงจะปรับตก แล้วก็ผิดได้เต็มที่แค่ ๑๒ แห่ง สมมติว่าคุณผิด ๑๒ แห่งที่เหลือทำถูกหมด ถ้าคิดคะแนนเต็ม ๑๐๐ คุณก็ได้ตั้ง ๘๘ คะแนน แต่ตก..! ก็เลยทำให้บรรดาผู้ที่จบประโยค ๙ ทั้งหลาย กลายเป็นพวกแปลกแยกจากสังคม..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2022 เมื่อ 03:17
|