ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 15-09-2022, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,645
ได้ให้อนุโมทนา: 158,549
ได้รับอนุโมทนา 4,488,860 ครั้ง ใน 36,253 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..จึงทำให้รู้ว่าสาเหตุที่ความดันขึ้น ว่าเป็นเพราะฉันขนมที่เป็นของหวานเข้าไป จึงพยายามที่จะลดลง ให้มีบ้างก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าร่างกายขาดจริง ๆ ที่เหลือก็ยังคงเป็นพวกพืชผักผลไม้เสียมากกว่า แม้แต่เนื้อสัตว์ สมัยเด็ก ๆ กระผม/อาตมภาพจะได้กินก็ต่อเมื่อทางบ้านมีเทศกาลไหว้เจ้า อย่างเช่นว่าตรุษจีนบ้าง สารทจีนบ้าง เวลาอื่นโอกาสมีน้อยมาก ส่วนที่จะได้กินตั้งแต่เด็ก ส่วนมากก็จะเป็นไข่ไก่เท่านั้น

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ โอกาสที่ร่างกายจะเสียหายเพราะการกินล้นกินเกินจึงมีน้อยมาก ทำให้ทุกวันนี้
กระผม/อาตมภาพปลอดจากโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน ขาดอยู่อย่างเดียวก็คือโรคไขมัน เพราะว่าเป็นกรรมพันธุ์ ในบ้านไม่มีคนอ้วนเลย แต่ว่าทุกคนไตรกลีเซอไรด์ในเลือดจะสูงมาก ในการตรวจครั้งล่าสุดของกระผม/อาตมภาพนั้น ไตรกลีเซอไรด์ ๒๖๗ ซึ่งหมอบอกว่า "ไม่ได้มีอะไรดีเลยครับ ยกเว้นว่าอดข้าวแข่งกับคนอื่นก็จะได้อยู่นานกว่าเขาหน่อยหนึ่ง"

ทำให้ไปนึกถึงภาษิตจีนที่ว่า "โรคภัยเข้าทางปาก เภทภัยออกจากปาก" หรือที่ฝรั่งเขาใช้คำว่า "You are what you eat." ซึ่งก็คือ "คุณกินอะไรคุณก็เป็นแบบนั้นแหละ"

ในเมื่อกระผม/อาตมภาพเองมีนิสัยที่กินขนมไม่ได้ เพราะว่าไม่เคยชินมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้โอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานก็มีน้อย แถมบางเวลา บางโอกาส อย่างเช่นเมื่องานประชุมพระนวกะของคณะสงฆ์อำเภอห้วยกระเจา และคณะสงฆ์อำเภอพนมทวน ที่จัดรวมกันที่วัดเขารักษ์ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี

กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่กับเพื่อนฝูง ก็คือพระมหาชโลม ปัญญาวชิโร ป.ธ. ๙ เจ้าคณะอำเภอห้วยกระเจา ปรากฏว่าบนโต๊ะนั้นมีลูกไข่เต่ามา ๑ ถาด คำว่าถาดในที่นี้คือถาดโฟม กระผม/อาตมภาพถามรอบวงแล้วว่า "มีใครสนใจจะฉันบ้างไหม ?" ทุกท่านก็ล้วนแล้วแต่ปฏิเสธ กระผม/อาตมภาพจึงฉันอยู่คนเดียวหลังอาหาร จนกระทั่งทั้งถาดนั้นเหลือแต่เมล็ดไข่เต่าเท่านั้น..!

พระมหาชโลมท่านถามว่า "ชอบหรือครับ ?"
กระผม/อาตมภาพเรียนท่านไปว่า "ไม่ได้ชอบหรอกครับ แต่ว่ากินแก้คิดถึง เพราะว่าตอนเด็กเคยไปคลำไปเก็บเอาเอง จนกระทั่งบางครั้งเจองูเหลือมนอนอยู่ในดงไข่เต่าก็วิ่งกันตับแลบ ในเมื่อมีสิ่งของที่ทำให้ระลึกถึงชีวิตวัยเด็กได้ ก็เลยฉันแก้คิดถึงไปอย่างนั้นเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2022 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา