ในงานสัมมนา กระผม/อาตมภาพก็ได้แสดงทัศนคติไปหลายประการด้วยกัน อันดับแรกเลยก็คือ การเรียนการสอนในประเทศของเราโดนตีกรอบมานาน จนกระทั่งแทบจะไม่มีใครกล้าคิดนอกกรอบ เอาแค่สถานศึกษาแห่งเดียว มีใครกล้าขัดความต้องการของผู้อำนวยการบ้าง ? แล้วถ้าหากว่าสิ่งที่ท่านทำเป็นการคิดนอกกรอบ แต่ไปกระทบกับสิ่งที่ผู้อำนวยการท่านทำอยู่ หรือว่าขัดกับท่านที่กำหนดนโยบายเอาไว้ คิดว่าเราจะอยู่ได้ไหม ?
เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องในระดับนโยบาย ต้องเปลี่ยนตั้งแต่กระบวนการคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีก็ยิ่งดีใหญ่ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เคยมีเคยปรากฏขึ้นมาแล้ว แต่สร้างความเสียหายให้กับการศึกษาในประเทศเราอย่างสาหัส อย่างเช่นว่า การเปลี่ยนมาใช้ระบบ ไชล์ดเซ็นเตอร์ (Child Center) ก็คือเอาเด็กนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งพอบริหารไประยะหนึ่งก็มีผู้กระแนะกระแหนว่าเป็นระบบ "ควายเซ็นเตอร์"..!
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าผู้บริหารไปลอกเอานโยบายของต่างประเทศมา โดยที่ไม่ได้ดูบริบทในบ้านเราเมืองเราว่าเหมือนเขาหรือไม่ ? บ้านเมืองของเรานั้นไม่ได้ปล่อยให้เด็กคิดเองทำเองมาตั้งแต่เด็ก หากแต่ว่าพยายามช่วยเหลือจนแทบจะทำแทนทุกอย่าง ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Spoil
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จะให้เด็กของเราคิดเอง ทำเอง เด็กก็คิดไม่เป็น แต่จะให้เด็กหันกลับไปท่องจำ ระบบก็โดนล้มเลิกไปแล้ว การศึกษาของเราจึงประดักประเดิดและถอยหลังเข้าคลองมาจนทุกวันนี้ ซึ่งใช้คำว่า "รั้งท้ายอาเซียน" ถ้าการศึกษารั้งท้ายอาเซียน ก็แปลว่า "รั้งท้ายทั้งโลก" แต่ว่าส่วนที่น่าอับอายที่สุดก็คือในอาเซียนของเรา มีประเทศที่มีการศึกษาเป็นอันดับ ๑ ของโลก ก็คือสิงคโปร์
ดังนั้น...เรื่องพวกนี้ถ้าเราเปลี่ยนระบบความคิดของผู้นำแล้วยังไม่เพียงพอ แต่ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ด้วย ที่จะมองดูบริบทของสังคมบ้านเราว่าเหมาะกับการเรียนการสอนแบบไหน การไม่ให้เด็กท่องจำโดยคิดว่าเป็นภาระหนักเป็นความคิดที่เลวร้ายมาก เพราะถ้าเด็กจำไม่ได้ แล้วจะเอาความรู้ที่ไหนมา ? ก็มีวิธีการเดียวก็คือทำอย่างไรที่จะให้เด็กจำง่าย และจำได้นาน
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยสมาธิ ที่พระภิกษุสามเณรของเรานี่แหละ จะต้องเป็นบุคคลที่สอนให้เด็กนักเรียนปฏิบัติ อย่างพรุ่งนี้ มะรืนนี้ เรามีโครงการค่ายพุทธบุตร ทำอย่างไรที่เด็กจะได้ครบทั้งทาน ศีล ภาวนา เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพฝากไว้สำหรับท่านที่เป็นวิทยากรด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2022 เมื่อ 02:33
|