เมื่อองค์สมเด็จพระประทีปแก้วเผยแผ่พระพุทธศาสนากว้างไกลออกไปมาก มีผู้เลื่อมใสต้องการบวชมาก พระองค์ท่านไม่สามารถให้การอุปสมบทโดยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทาได้ทั่วถึง จึงอนุญาตให้คณะสงฆ์เป็นใหญ่ทำการบวชกุลบุตร โดยมีพระอุปัชฌาย์อาจารย์ให้คำแนะนำว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ส่วนใหญ่ก็ให้รับสรณคมน์ อย่างที่พวกเรากล่าวกันว่า..
"นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ" แปลว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น คำว่า "พระองค์นั้น" ก็คือ "พระพุทธเจ้า" เพราะว่าเป็นการบวชของหมู่สงฆ์ ไม่ได้อยู่ต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ท่าน
"พุทธัง สรณัง คัจฉามิ" ข้าพเจ้าขอยึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
"ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ" ข้าพเจ้าขอยึดพระธรรมเป็นที่พึ่ง
"สังฆัง สรณัง คัจฉามิ" ข้าพเจ้าขอยึดพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วประทานวิธีนี้เพื่อให้การบวชนั้นสะดวกขึ้น ไม่ต้องมาอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ท่านแต่เพียงผู้เดียว จึงเรียกวิธีนี้ว่า "ติสรณคมนูปสัมปทา" คือ การอุปสมบทโดยการเข้าถึงสรณะทั้งสาม คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2022 เมื่อ 17:02
|