เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต่อให้เป็นเรื่องของกองบุญการกุศล ก็เป็นเรื่องที่ท่านจำเป็นต้องใช้ปัญญาในการทำบุญ จะขอยกตัวอย่างก็คือว่า มีญาติโยมตั้งใจที่จะถวายเพลพระ แต่ไม่ทราบว่าพระวัดป่านั้นฉันเพลด้วยการฉันในบาตร ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายตั้งใจทำอาหารไป เป็นแกง เป็นต้ม เป็นยำทั้งหมด ก็ทำให้พระท่านลำบาก ไม่สามารถที่จะฉันในบาตรได้
โดยเฉพาะพระสายอีสานมักจะฉันข้าวเหนียว ในเมื่อเจอกับข้าวกลายเป็นต้ม เป็นแกง เป็นน้ำไปเสียหมด ตักใส่บาตรก็เหลวโจ๋งเจ๋งไปเลย ไม่สามารถที่จะฉันได้ถนัด ทำให้ท่านที่ทำบุญโดยไม่ได้พินิจพิจารณา จนกลายเป็นสร้างความลำบากให้แก่พระเสียเปล่า เป็นต้น
ดังนั้น...ต่อให้เป็นเรื่องของการบุญการกุศล ท่านทั้งหลายก็ควรที่จะศึกษาหาความรู้ และใช้ปัญญาในการทำบุญ ทำแล้วให้พระท่านได้ใช้ประโยชน์จริง ๆ ไม่ใช่ทำไปแล้วก็กลายเป็นของที่เกะกะเต็มกุฏิเสียเปล่า จนกระทั่งบางท่าน อยู่ไปนาน ๆ ไม่รู้จักผ่องถ่ายไปให้คนอื่น บางทีข้าวของก็เต็มกุฏิจนแทบจะไม่มีที่นอนเอง..!
ท้ายนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายได้นำไปพินิจพิจารณาว่า ในเรื่องของการสร้างกองบุญการกุศลนั้น ต่อไปเราควรที่จะทำอะไรให้เหมาะสมแก่กาลเทศะบ้าง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2022 เมื่อ 00:19
|