ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่พวกเราทำแล้วได้รับคำชมเชยจากผู้บังคับบัญชาว่า ใน ๑๓ อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี ทองผาภูมิไม่เคยหลุด ๑ ใน ๕ ในทุกด้านเลย โดยเฉพาะด้านการปกครองกับด้านการศึกษา รับประกันได้ว่าอยู่ในอันดับ ๑
ในด้านการศึกษาท่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นทุ่มเทให้ขนาดไหน ใครจะเรียนระดับไหน ส่งเรียนทั้งหมดโดยไม่มีข้อแม้
ส่วนในเรื่องการปกครองนั้น เนื่องจากว่าเราไม่แย่งชิงตำแหน่งกันเอง เพราะฉะนั้น...ถึงเวลาจะเห็นว่า เจ้าคณะอำเภอ ๑ รูป รองเจ้าคณะอำเภอ ๒ รูป รวมแล้ว ๓ รูป ไม่ว่าไปงานที่ไหนก็ "แท็กทีม" กันไป เป็นที่อิจฉาของอำเภออื่นว่า ทำไมอำเภออื่นเขาไม่รักกันเหมือนอย่างกับอำเภอทองผาภูมิ ? กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่บอกในใจ ไม่กล้าพูดเสียงดังว่า "ถ้าหากว่าไม่แย่งตำแหน่งกัน ก็รักกันแบบนี้ได้ครับ"
เนื่องเพราะว่าหลายท่านถามตั้งแต่ต้นแล้วว่า "ทำไมอาจารย์เล็กปล่อยให้วัดเขื่อนฯ เป็นรองอำเภอไปก่อน ?" กระผม/อาตมภาพบอกกับเขาไปตามตรงว่า "ต่อให้วัดเขื่อนฯ เป็นยันเกษียณอายุ ๘๐ ผมยังอายุไม่เท่ากับท่านตอนนี้เลย แล้วผมจะรีบแย่งตำแหน่งไปทำไม ? ได้มาก็เหนื่อย" ในเมื่อพวกเรามีการเสียสละ ก็ไปตรงกับสิ่งที่ผู้รู้บางท่านบอกว่า ถ้าแย่งกันเป็นใหญ่ มักจะไม่ได้ใหญ่สักคน แต่ถ้าแบ่งกันเป็นใหญ่ ก็จะได้ใหญ่ทุกคน
จึงเป็นอุทาหรณ์เรื่องทางโลก ๆ ให้พวกเราได้คำนึงว่า บางทีเราก็จำเป็นต้องเสียสละ และโดยเฉพาะเป็นการเสียสละที่หลายคนก็อาจจะฉวยโอกาส เรียกว่า "พ่วง" ไปกับการเสียสละของเรา แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการสร้างบารมีอย่างหนึ่ง โดยที่กระผม/อาตมภาพมีคติประจำใจอยู่อย่างหนึ่งว่า "ใครวางได้ก่อนก็สบายก่อน ใครอยากจะแบกไว้ก็ช่างหัวเขา เราไม่ได้หนักไปด้วย"
จึงเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมว่า ในสิ่งที่ได้ทำไปนั้น บางอย่างคนอื่นเขาไม่เข้าใจหรอก แต่ถ้าเราทำเพราะอยากทำ ก็จงทำต่อไปเถอะ เป็นหน้าที่ของเรา ส่วนคนอื่นเขาจะทำหรือไม่ทำ จะเลียนแบบหรือไม่เลียนแบบก็เป็นเรื่องของเขา เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดแล้วก็เป็นอันว่าจบกัน
จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2022 เมื่อ 02:49
|