| 
				  
 
			
			ถาม : บริวารสองแสนคน..! นึกว่าไปออกรบตอบ :  อย่าลืมว่ากองเกวียนสินค้าเศรษฐีสมัยก่อน ก็คือกองทัพดี ๆ นี่เอง  ต้องไปค้าขายต่างบ้านต่างเมือง  จึงต้องมีกองกำลังส่วนตัวเพื่อป้องกันโจรผู้ร้าย
 
 เมื่อธนัญชัยเศรษฐีไปยังแคว้นโกศล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปรับเองเลยนะ ให้เกียรติมาก เพราะรู้ว่าจะมาสร้างความเจริญให้ประเทศตัวเอง   แต่ธนัญชัยเศรษฐีเห็นที่ที่เหมาะสมตรงรอบนอกมากกว่าในเมือง  ถามพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า  "ที่ตรงนี้มีเจ้าของหรือไม่ ?"   พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสว่า ที่ตรงนี้เป็นที่ของตนเอง  ยังไม่มีเจ้าของ  ธนัญชัยเศรษฐีจึงตัดสินใจขอที่ตรงนี้  สร้างเมืองใหม่ด้วยตนเอง  เพราะไม่ต้องการเข้าไปรบกวนในเมืองสาวัตถี  คนตั้งสองแสนเข้าไปแย่งกินแย่งใช้  ทรัพยากรอาจไม่พอ   ธนัญชัยเศรษฐีก็เลยสร้างเมืองสาเกตขึ้นมา
 
 ตอนนี้ฝ่ายพระพุทธเจ้ามีใครบ้าง ?   นางวิสาขาปราบมิคารเศรษฐีจนยอมรับพระพุทธศาสนาแล้ว  อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าแล้ว   ธนัญชัยเศรษฐีเป็นสาวกแล้ว  และยังมีแคว้นใหญ่สามแคว้นหนุนหลังอยู่  คราวนี้เข้าไปในแคว้นโกศลน่าจะสบายแล้ว  พระพุทธเจ้าจึงได้ยอมเข้าแคว้นโกศล  เข้าแคว้นโกศลเมื่อไร ?  พรรษาที่  ๑๔..!   ใช้เวลา ๑๔  ปี  จึงเข้าแคว้นโกศลได้
 
 พระพุทธเจ้าเทศน์โปรดพระเจ้าปเสนทิโกศล  จนยอมประกาศตนนับถือพระรัตนตรัย  แม้พระเจ้าปเสนทิโกศลนับถือพระพุทธศาสนาแล้ว  ก็ยังทดสอบพระพุทธเจ้าอยู่เรื่อย  ถ้าเราไปอ่านพระสูตรจะเจอพระสูตรหนึ่ง  ที่ปริพาชก  ๗  ท่านเดินผ่านมา  พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ถอดรองพระบาท  คุกเข่าแสดงอาการคารวะปริพาชกทั้ง ๗   แล้วก็บอกพระพุทธเจ้าว่า  "ท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นพระอรหันต์"
 
 พระพุทธเจ้าตรัสว่า"ปุถุชนสามารถรู้ได้แค่เรื่องของปุถุชน  พระโสดาบันสามารถรู้ได้แค่เรื่องของพระโสดาบัน ในเมื่อพระองค์ยังไม่ใช่พระอรหันต์ แล้วรู้ได้อย่างไรว่าผู้อื่นเป็นพระอรหันต์ ?"  พระเจ้าปเสนทิโกศลอับจนด้วยถ้อยคำ  จึงได้ยอมสารภาพว่า นั่นเป็นจารบุรุษของโยมเอง  แสดงว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลส่งสายลับไปทั่วเลย  ปลอมเป็นนักบวชก็เอา  ถ้าพระพุทธเจ้าไม่จับโกหกได้ซึ่ง ๆ หน้าอย่างนั้น  คาดว่าคงโดนทดสอบอีกเยอะ  จะเห็นได้ว่า  โดยวิสัยพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นบุคคลลงให้คนอื่นได้ยากมาก  ต้องบอกว่าหัวแข็งจนทุบไม่ลง
 
 เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลประกาศตนนับถือพระพุทธศาสนา  พระพุทธเจ้าจึงเสด็จกลับกบิลพัสดุ์ได้อย่างเปิดเผย  เพราะว่าผู้ปกครองเมืองกบิลพัสดุ์ยอมเป็นบริวารแล้ว  ไม่อย่างนั้นนี่..กลับไปสงเคราะห์ญาติตัวเองได้ยาก
 
 วิสัยความหวาดระแวงของคน พาให้ตายมาเยอะแล้ว สมัยก่อนเรื่องชิงราชสมบัติ  พูดง่าย ๆ ว่า  กรุณาอย่ามีลูกหลายคนเลย   มีเมื่อไรเดือดร้อนกันไปหมด  คนไหนมีทีท่าว่าจะเด่นขึ้นมา  โดนสอยตลอด"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2010 เมื่อ 16:33
 |