ทำไมถึงมาพูดเรื่องนี้ ? ก็เพราะว่าเรามาดูแค่ตอนที่พวกเขาประสบความสำเร็จ แต่ตอนที่เขาฝ่าฟันกันมาด้วยความยากลำบาก สร้างทีมมาตั้งแต่สมัยโค้ชอ๊อด (เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร) จนกระทั่งมาถึงโค้ชด่วน (ดนัย ศรีวัชรเมธากุล) ในปัจจุบัน ใช้เวลามาเกิน ๑๐ ปี นั่นคือวิริยบารมีและขันติบารมี ต้องอดทน อดกลั้น อดออมทุกอย่าง เพื่อที่จะให้มีวันนี้
คราวนี้เราไปดูความสำเร็จของคนอื่น โดยที่ไม่ได้ดูความยากลำบากก่อนจะประสบความสำเร็จ เราก็มักจะเพ้อฝัน ก็คือว่าเราก็ทำได้อย่างนั้นแหละ ตรงจุดนี้เป็นจุดอ่อนใหญ่ของคนไทยรุ่นใหม่ทั้งประเทศ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
กระผม/อาตมภาพเคยอบรมค่ายพุทธบุตร เด็ก ๆ ไม่สนใจกัน ทั้ง ๆ ที่อยู่ในระดับมัธยมปลายแล้ว ประมาณว่าเรียนก็ได้ ไม่เรียนก็ได้ สตีฟ จ็อบส์เรียนไม่จบ มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กเรียนไม่จบ แต่รวยกันเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน
กระผม/อาตมภาพต้องด่าเตือนสติไปว่า "โลกนี้มีประชากรกี่พันล้าน ? แล้วมีสตีฟ จ็อบส์กี่คน ? มีมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กกี่คน ? แล้วมึงมั่นใจใช่ไหมว่าจะเป็นอย่างนั้นได้ ? ถ้าทุกวันนี้ในหัวของมึงไม่มีอะไรเลย นอกจากเป็นที่งอกของเส้นผม มึงคิดว่าจะประสบความสำเร็จแบบนั้นไหม ?"
ก็เพราะว่าในเรื่องของการศึกษาของไทยเราไม่ใช่ว่าไม่ดี การศึกษาของไทยเราถือว่าเป็นการศึกษาที่ยากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ต้องเอาใครหรอก เอาแค่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่กระผม/อาตมภาพจบมานี่แหละ ปริญญาตรี เราต้องเรียนถึง ๑๕๐ หน่วยกิต แล้วยังมีวิชาที่ไม่คิดหน่วยกิตอีก ๒๐ - ๓๐ วิชา..! เรียนกันหนักขนาดไหน ?
จะบอกว่าเป็นความฉลาดน้อยของคนรุ่นเก่าก็ใช่ที่ กฎหมายเขาระบุว่า ๑๓๐ ถึง ๑๕๐ หน่วยกิต สามารถมีสิทธิ์ในการรับปริญญาได้ มจร.ของเราไม่เอาน้อย ล่อมัน ๑๕๐ หน่วยกิตไปเลย..!
การศึกษาของเรายากเป็นอันดับต้น ๆ แต่ขอโทษ...เด็กเรานั้นมักง่าย ทุกคนเลือกเรียนแต่วิชาเพ้อฝันหมด ไอ้เรื่องของความยากลำบากที่จะมาสร้างผลผลิตต่าง ๆ ไม่มี ตั้งแต่กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะรู้ภาษา เข้าเรียนหนังสือชั้นประถมก็มานั่งท่องว่า "สินค้าส่งออกของไทยประกอบไปด้วยข้าว ข้าวโพด ไม้สัก ยางพารา แร่ดีบุก" ทุกวันนี้เรายังส่งออกยางพาราอยู่เลย แต่มีบ้างไหมที่จะทำวิจัยว่า ยางพาราสามารถแปรรูปเป็นอะไรที่เพิ่มมูลค่าได้บ้าง ? อย่างน้อย ๆ ผลิตยางรถยนต์ไปขายก็ยังดี ๔๐ - ๕๐ ปีผ่านไปเราก็ยังคงขายยางแผ่นอยู่เหมือนเดิม..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2022 เมื่อ 03:12
|