| 
				  
 
			
			"คราวนี้เรามาดู  พระพุทธเจ้าส่งพระ  ๖๐  รูปแรกออกประกาศศาสนา (ปัญจวัคคีย์+คณะของพระยสะ)  ส่งอีก  ๓๐  รูปหลังออกประกาศพระศาสนา (ภัททวัคคีย์)   แต่นี่ ๑,๐๐๓  รูป  พระพุทธเจ้าพาไปไหน ?   พระองค์พาไปแคว้นมคธของพระเจ้าพิมพิสาร  คราวนี้ยืดได้  เดินนำไปเลย..
 เพราะอะไร ?  พระเจ้าพิมพิสารแม้จะอยู่ในลักษณะของบุคคลที่ใจดี  รู้ว่าเจ้าชายสิทธัตถะหนีออกมา  ก็ยังจะแบ่งสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง  แต่ว่ากษัตริย์ย่อมมีขัตติยมานะเป็นปกติ  ถ้าไปในลักษณะที่ไม่สมกับเกียรติยศของกษัตริย์  เขาอาจจะดูถูกดูแคลน ไม่ให้ความสนใจและไม่เชื่อถือ  พระพุทธเจ้าจึงไม่ได้ส่งพระอรหันต์  ๑,๐๐๓  รูปนี้ออกประกาศพระศาสนา  แต่พาไปหาพระเจ้าพิมพิสารด้วย  ไปในลักษณะบริวารยศ ก็คือ มียศใหญ่ด้วยมีบริวารมาก
 
 ไปโดยศักดิ์ว่าเป็นกษัตริย์เสมอกัน  ถึงแม้จะได้รับพระบรมราชานุญาตว่า  บรรลุมรรคผลแล้วให้มาโปรดด้วย   ถ้าเช่นนั้นสามารถที่จะตรงเข้าวังได้เลย  แต่พระองค์ไม่ไป    เพราะถ้าไปในลักษณะอย่างนั้นก็เหมือนกับเขาเป็นเจ้าของบ้าน  เจ้าของบ้านต้องมีตัวกู..ตัวของกูเป็นธรรมดา..ก็กูใหญ่กว่า  อาจจะไม่ละพยศ ไม่เชื่อกัน   ท่านจึงไปพักที่สวนลัฏฐิวัน(สวนตาลหนุ่ม)
 
 ชาวบ้านได้ข่าวก็แห่กันไปมืดฟ้ามัวดิน เพราะอะไร ?  อาจารย์ใหญ่มานี่  ท่านอุรุเวลกัสสปะ  ท่านนทีกัสสปะ  ท่านคยากัสสปะ  อย่าลืมว่าเฉพาะชาวบ้านที่บวชอยู่กับชฎิลสามพี่น้องมีเป็นจำนวนหนึ่งพัน   แสดงว่าชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านต้องไม่ธรรมดา  ไม่มีใครแลพระพุทธเจ้าเลย..! ไปหาแต่อาจารย์ใหญ่ของตัวเอง  พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร  นั่งยิ้ม..
 
 พระเจ้าพิมพิสารได้ข่าว  พาข้าราชบริพารมาด้วย  รวมกับชาวบ้านทั่วไป  ท่านบอกว่ามี ๑๒ นหุต(๑ นหุต เท่ากับ ๑ หมื่น) คราวนี้เรารู้สึกคุ้น ๆ ไหมกับคำว่า นหุต ?  ศรีสัตนาคนหุต  ก็คือ เมืองล้านช้าง
 
 คำว่า นาค  หรือ นาคะ  ใช้แทนคำว่าผู้ประเสริฐก็ได้ ใช้แทนคำว่าพระพุทธเจ้าก็ได้  ใช้แทนผู้ที่ฝึกดีแล้วก็ได้  ใช้แทนช้างก็ได้
 สตนหุต = ร้อยหมื่น  ของบาลีจะเอาตัวนามกล่าวไว้ตรงกลาง เลขจะอยู่หัวท้าย  ก็เลยกลายเป็นสัตนาคนหุต   ล้านช้าง ก็คือ  ช้างล้านตัว
 
 ก็แปลว่า  ทั้งข้าราชบริพารและชาวบ้านรวมไปกันทั้งหมด  หนึ่งแสนสองหมื่นคน..!"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-02-2010 เมื่อ 13:29
 |