ดูแบบคำตอบเดียว
  #31  
เก่า 15-02-2010, 16:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พระพุทธเจ้าตรัสถามถึงหลักการปฏิบัติ ท่านอุรุเวลกัสสปะก็บรรยายให้ฟังว่า ท่านบูชาไฟอย่างนี้ ๆ พระพุทธเจ้าก็บอกว่า การบูชาไฟเป็นของดี ไม่ดีได้อย่างไรเพราะแต่ละคนมีฤทธิ์ทั้งนั้น ฉะนั้น..การเผยแผ่ธรรมของพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ขัดใคร

ท่านบอกว่าการบูชาไฟภายนอกถึงแม้ว่าจะดี แต่การบูชาไฟภายในได้จะดีกว่า ท่านอุรุเวสกัสสปะตอนนี้เริ่มละพยศแล้ว เพราะเห็นว่าสมณะรูปนี้มีความสามารถจริง ขนาดจะตากผ้า ต้นหว้ายังน้อมกิ่งลงมาให้ตากเลย

ท่านอุรุเวลกัสสปะก็ขอเรียนกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็เทศน์อาทิตตปริยายสูตร ที่ว่าตาเป็นของร้อน จมูกเป็นของร้อน ลิ้นเป็นของร้อน ฯลฯ ร้อนด้วยอะไร ? ร้อนด้วยไฟ ไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ ถ้าหากสามารถดับได้ก็คือความเย็น ท่านก็อธิบายให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ อุรุเวลกัสสปะและบริวารบรรลุมรรคผล ลอยบริขารทิ้งลงแม่น้ำ ขอรับการอุปสมบทใหม่ กลายเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา

คราวนี้น้อง ก็คือ ท่านนทีกัสสปะ (น้องคนกลาง) อยู่ด้านใต้ จู่ ๆ บริขารของพี่ลอยมาเป็นแพเลย ก็ตกใจว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นหรือไม่ ก็พาบริวารอีก ๓๐๐ คนไปหาพี่ พบพระพุทธเจ้าได้ฟังธรรม ก็บรรลุอีก ลอยบริขารทิ้งเหมือนกัน ไปถึงท่านคยากัสสปะ(น้องคนเล็ก) เห็นบริขารลอยมา คิดว่าอันตรายเกิดขึ้นกับพี่แล้ว ก็พาบริวารอีก ๒๐๐ ไปหาพี่ พบพระพุทธเจ้าฟังเทศน์กลายเป็นพระอรหันต์ไปอีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2010 เมื่อ 04:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา