ดังนั้น...พระวิปัสสนาจารย์ทั้งหลายจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาให้แตกฉาน ไม่เช่นนั้นแล้วท่านทั้งหลายก็อาจจะสอนคนจนเป็นมิจฉาทิฐิ อย่างเช่นว่า พอถึงเวลาภาวนาไปแล้วพองยุบหาย ท่านก็ไปสรุปว่านั่นคือภังคานุปัสสนาญาณ เป็นการปรีชาหยั่งรู้เห็นความดับ  
 
กระผม/อาตมภาพพอได้ยินเช่นนั้นแล้ว ก็รู้สึกว่าท่านทั้งหลายนั้น นำเอาหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเปรียบเสมือนโคตรเพชรยอดมงกุฎ ลดค่าลดราคาลงเหลือเพียงเศษแก้วเศษกระจกแตก ๆ เท่านั้น..! 
 
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะว่าถ้าหากว่าลูกศิษย์ของท่านถือตาม เชื่อตาม ก็จะเป็นการสอนคนให้เป็นมิจฉาทิฐิ ซึ่งเป็นโทษร้ายแรงอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าทำให้ห่างมรรคห่างผลยังไม่พอ อาจจะต้องลงสู่อบายภูมิ กว่าที่จะผ่านพ้นขึ้นมา ได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนาอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นวาระที่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างยาวนานเหลือเกิน 
 
ถ้าจะพูดในเรื่องของญาณ ๑๖ ให้ชัดเจนและครบถ้วนแล้ว ก็อาจจะต้องใช้เวลาถึง ๒ - ๓ ชั่วโมง  วันนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายที่ได้ฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้  
 
 
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน 
วันศุกร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ 
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2022 เมื่อ 02:51
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |