ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงแนะนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการพระราชดำริอีกเป็นร้อยเป็นพัน เพื่อให้ประชาชนหรือพสกนิกรของพระองค์ท่านได้เห็นและทำตาม ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่ต้องขอใคร แต่หากินเองได้ ดังนั้น...บางคนที่วาจาร้ายหน่อยก็จะบอกว่า "รัฐบาลให้ปลา พระราชาให้เบ็ด" ฟังดูแล้ว "น้ำตาจิไหล..!" แต่กระผม/อาตมภาพก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน เพราะว่าเราเรียนมาตำราเดียวกัน 
 
ท้ายที่สุดทฤษฏีทั้งหลายทั้งปวงของฝรั่ง ก็สู้หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว แล้วหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ถอดออกมาเป็นทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เป็นทฤษฎีที่รอบคอบ สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งถ้าว่าไปแล้วก็คือ เหมาะกับภาวะของประเทศชาติในขณะนี้มากที่สุด 
 
ดูได้จากประชาชนชาวทองผาภูมิ ทุกคนล้วนแต่มีเรือกสวนไร่นาเป็นของตนเอง แม้แต่บุคคลที่มีกิจการร้านค้า ร้านอาหาร ประกอบอาชีพต่าง ๆ อยู่ในตลาด ก็ยังมีเรือกสวนไร่นาของตน ระยะเวลาส่วนหนึ่งก็คือแบ่งไปดูเรือก ดูสวน ดูไร่ ดูนาของตนเอง 
 
ดังนั้น...ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด พี่น้องชาวทองผาภูมิจึงเดือดร้อนกันน้อยมาก เพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นพึ่งพาตนเองได้ ตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ 
 
พี่น้องท่านอื่น ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้อาจจะเพิ่งตื่น หรือว่ายังไม่ตื่นก็ตาม ขอให้ท่านรู้ไว้ว่า ในภาวะที่โรคระบาดยังไม่เบาลงสักเท่าไร แล้วโรคฝีดาษลิงก็เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ประกอบกับภาวะศึกสงครามที่มีโอกาสขยายตัวใหญ่ต่อไปข้างหน้า ข้าวของทุกอย่างจะแพงมากขึ้น ตามที่คนโบราณตั้งข้อสังเกตไว้ว่า "หลังการระบาดของโรค หรือว่าหลังศึกสงคราม จะเกิดข้าวยากหมากแพง" เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าประชาชนไม่มีโอกาสที่จะทำไร่ทำสวน ทำให้ไม่มีผลผลิตออกมาสู่ตลาด 
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-05-2022 เมื่อ 08:52
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |