ประการต่อไปก็คือ ระยะนี้มีหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานก็ดี วัดวาอารามก็ดี ตลอดจนกระทั่งเป็นการส่วนตัวก็ตาม ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะมาขออนุญาตสร้างวัตถุมงคลในนามวัดท่าขนุน
ตรงนี้ขอปฏิเสธเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่า กระผม/อาตมภาพไม่อนุญาตให้ใครสร้างวัตถุมงคลในนามวัดท่าขนุน ยกเว้นว่าจะได้รับการติดต่อมาตั้งแต่ต้น และเมื่อสอบถามครูบาอาจารย์หรือว่าพระท่านแล้ว ได้รับอนุญาต คือ มีความเห็นว่าสร้างได้ ก็จะบอกกล่าวให้ท่านทั้งหลายได้ทราบ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครที่ได้รับอนุญาตเช่นนั้น
แม้แต่ตัวกระผม/อาตมภาพเองที่ต้องการเงินเป็นอย่างมาก เพื่อนำไปใช้ในการสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ซึ่งเซ็นสัญญาไปในเบื้องต้นที่ ๑๕๕ ล้านบาท แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างวัตถุมงคลเพิ่มเติมในช่วงนี้ ก็ได้แต่รอว่าด้วยอำนาจของพระคาถาเงินล้านก็ดี ด้วยพุทธบารมี ธัมมบารมี สังฆบารมี ตลอดจนกระทั่งบารมีของพรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ ท่านจะอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้เงินเข้ามาทางด้านใด ? ต้องเรียกว่าไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างก็เป็นการดี เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยในการที่ต้องไปกระทำชนวน หรือว่าจัดเตรียมวัสดุ
ทั้งยังต้องเตรียมการบวงสรวงขออนุญาต เตรียมการบวงสรวงพุทธาภิเษก และขณะเดียวกันก็จะต้องกำหนดวันเวลาที่เหมาะสม เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองเป็นบุคคลที่มีภาระงานมาก ทำให้มีเวลาว่างเหลือน้อยเต็มที
โดยเฉพาะหลายท่านที่ผลักภาระให้กับทางวัดท่าขนุนเลย ก็คือขออนุญาตสร้าง แต่ให้วัดท่าขนุนดำเนินการทั้งหมด แล้วจะแบ่งปัจจัยส่วนหนึ่งถวายวัดท่าขนุน หรือว่าแบ่งวัตถุมงคลส่วนหนึ่งถวายวัดท่าขนุน ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น แล้วกระผม/อาตมภาพจะไปอนุญาตให้ท่านสร้างทำไม ? ก็สร้างเสียเองไม่ดีกว่าหรือ ?
ตรงจุดนี้ เวลาเจรจาอะไรกัน ก็อย่าเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนมากมายจนเกินไป เพราะว่าบุคคลอื่นไม่ได้กินหญ้า..! ย่อมมีปัญญาเพียงพอที่จะพินิจพิจารณา ว่าเรื่องที่ท่านทั้งหลายขอมานั้นสมควร หรือไม่สมควรเป็นประการใด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2022 เมื่อ 02:24
|