ส่วนอาตมาเจอที่บ้านสายลม ไปฝึกมโนมยิทธิ ครูเปี๊ยก สมพร บุณยเกียรติ ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็นคณิตพร บอกให้ย้อนไปดูสมัยท่านแม่เรือล่ม ก็เห็นว่าตอนนั้นคลื่นแรงมาก ทำเรือพระประเทียบล่ม สมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านว่ายน้ำแข็ง หนีออกจากเรือมาได้แล้ว พอเหลียวมองไปรอบตัว ไม่เห็นใคร ได้ยินร้องคำเดียวว่า "ลูก..!" ก็คือตกใจว่าลูกไม่ได้ออกมาด้วย พระองค์ท่านก็เลยว่ายน้ำย้อนกลับไปที่เรือใหม่ พอดีคลื่นพัดแรงมา เรือพลิกคว่ำ ครอบพระองค์ท่านหายไปเลย กลายเป็นว่าปกติแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ย้อนกลับไปช่วยลูก ก็เลยจมน้ำสรรคตไปเลย
ด้วยความที่เห็นความรักของแม่ ขนาดเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อลูกได้ ก็เลยน้ำตาไหล แล้วก็ไหลพรากไม่หยุด จนกระทั่งเลิกฝึกมโนมยิทธิ ออกมารับใช้หลวงพ่ออยู่ใกล้ ๆ ก็ยังก็ไหลไปเรื่อย เพื่อนพ้องพี่น้องคนโน้นก็ทิชชู่ คนนี้ก็ทิชชู่ เช็ดหน้าจนแสบไปหมดก็ไม่เลิก จะกลั้นให้หยุด ก็หยุดได้นะ แต่พอขยับจะกลั้น หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "อย่า...ปล่อยให้เต็มที่ไปเลย ถ้าเอ็งไปกลั้นเอาไว้ เดี๋ยวพอถึงตรงนี้ก็จะเป็นอีก"
เพราะฉะนั้น ถ้าใครเกิดปีติแล้วไปกลัว หรือว่าอาย มักจะผ่านไม่ได้ อารมณ์จะติดอยู่แค่ตรงนั้น แล้วก็ทรงฌาณไม่ได้ พอถึงเวลาภาวนาถึงตรงนั้นเมื่อไรก็เป็นอีก เดี๋ยวก็ขนลุกอยู่นั่นแหละ คนที่น้ำตาไหลก็น้ำตาไหลอยู่นั่นแหละ คนที่ดิ้นตึงตังเป็นผีเจ้าเข้าสิงก็ดิ้นไปเถอะ แต่ถ้าเราไม่กลัว ไม่อาย แล้วปล่อยให้เต็มที่ ครั้งเดียวก็จะเลิกไปเลย ตอนนั้นของกระผม/อาตมภาพก็เกือบจะหกโมงเย็น กว่าจะเลิกก็เช็ดน้ำตาจนหน้าถลอก..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2022 เมื่อ 19:47
|