ถ้าหากญาติโยมทั้งหลายถามว่า แล้วจะมาสงเคราะห์เขาทำไม ? ตรงนี้ก็ต้องบอกว่า เหตุที่ต้องมาเพราะอันดับแรก...ทำหน้าที่ของศากยบุตรพุทธชิโนรส ก็คือบุคคลที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเชื่อถือ และไว้วางใจมอบภาระหน้าที่ให้ ในฐานะ ๑ ในพุทธบริษัททั้ง ๔ ก็ต้องทำหน้าที่ค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้เต็มที่ เปรียบเสมือนช้างศึกที่เข้าสู่สงคราม
ช้างศึกที่เข้าสู่สงครามนั้น ก็คือทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ใส่ใจถึงลูกศร ปืนไฟ หอกดาบ ที่กระหน่ำเข้าใส่ตนเอง นอกจากทำหน้าที่จนกว่าจะจบศึกสงครามนั้นลงไป บาดเจ็บมาก บาดเจ็บน้อย หรือว่าถึงตายนั้นไม่ได้คิดถึง
ประการที่สองก็คือ ญาติโยมทั้งหลายเป็นผู้ที่มีบุญคุณ ได้ร่วมกองบุญการกุศลกับกระผม/อาตมภาพมา หลายท่านก็เกินกว่า ๓๐ ปีแล้ว เป็นผู้หนึ่งที่ช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนาอยู่ ซึ่งเราควรที่จะช่วยกันประคับประคองในลักษณะที่เดินไปด้วยกัน ที่ภาษาในปัจจุบันนี้มักจะใช้คำว่า "ไม่ทิ้งใครเอาไว้ข้างหลัง" ถ้าหากว่าโยมมีมิตรจิต แล้วเราขาดมิตรใจ ก็จะทำให้พระพุทธศาสนาของเราไม่มั่นคง
ตรงนี้ต้องบอกกับญาติโยมทั้งหลายว่า ถ้าหากว่าบอกกล่าวอะไรแล้วฟังกันบ้าง กระผม/อาตมภาพก็คงพอที่จะรักษาสภาพสังขารนี้เอาไว้ ให้ท่านทั้งหลายได้ใช้เป็นเนื้อนาบุญต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าเอาแต่กำลังใจของตนเอง ก็อาจจะทำให้กายสังขารของกระผม/อาตมภาพรับภาระไม่ไหว
ถ้าถึงเวลาพังลงไปนั้น แม้จะเป็นความยินดีและพอใจของกระผม/อาตมภาพก็ตาม แต่ว่ากำลังใจส่วนใหญ่ก็อาจจะเสียหาย และทำให้ทุกคนต้องหาหลักที่ยึด เพื่อที่จะได้เกาะเกี่ยวนำพาตนเองให้พ้นจากวัฏสงสารอีกรอบหนึ่ง กว่าที่จะหาหลักยึดที่ต้องการได้ ก็อาจจะต้องเสียเวลาไประยะเวลาหนึ่งได้
วันนี้จึงขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2022 เมื่อ 02:47
|