โดยเฉพาะงานส่วนนี้นั้น ประสานเข้ากับงานของชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนด้วย เนื่องเพราะว่าที่อยู่ ที่กิน ของที่ระลึกทุกอย่าง ซึ่งสามารถขายได้ เพราะมีคนเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ ก็จะทำให้เกิดผลประโยชน์ตกกับประชาชนในพื้นที่ของเราเอง
ดังนั้น..ตรงจุดนี้ไม่ว่าจะในทางโลกหรือในทางธรรม ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอยู่ เพื่อที่จะต้อนรับลูกทัวร์คณะนี้โดยเฉพาะ แต่ขอความกรุณา มาทำบุญตามปกติทุกวันก็ได้ แต่อย่ามั่วเข้าไปตอนที่คนอื่นเขากำลังรับวัตถุมงคลที่จัดสรรไว้ให้เขาเป็นการเฉพาะ
ส่วนญาติโยมอีกรายหนึ่งนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี เพราะว่ารีบ ๆ ร้อน ๆ วิ่งเข้าร้านค้าซื้อข้าวปลาอาหารเพื่อใส่บาตร แล้วเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนก็ยืนปิดบาตรมองหน้า จนกระทั่งโยมสงสัย เงยหน้าขึ้นมาในลักษณะตั้งใจจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น ? กระผม/อาตมภาพจึงชี้ให้ดูว่าโยมยังใส่รองเท้าอยู่ อีกฝ่ายถึงได้รีบถอดรองเท้าแล้วก็ใส่บาตร โดยมีการขอโทษขอโพยว่า "รีบจนลืมไปครับ"
ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า ญาติโยมส่วนหนึ่งนั้น บางทีก็ไม่เห็นความสำคัญในรายละเอียดต่าง ๆ ที่บรรพบุรุษของเราได้ประพฤติปฏิบัติมาอย่างถูกต้องและเป็นรูปธรรมมาช้านาน
การถอดรองเท้าใส่บาตรนั้น แสดงซึ่งความเคารพในทานของตน แล้วขณะเดียวกัน ก็มีในพระไตรปิฎกที่กล่าวถึงพระเจ้าพิมพิสาร โดนพระเจ้าอชาตศัตรูผู้เป็นราชบุตรชิงบัลลังก์ แล้วให้ช่างกัลบกใช้มีดโกนกรีดฝ่าเท้า คือฝ่าพระบาทของพระเจ้าพิมพิสาร เพื่อไม่ให้พระองค์ท่านเดินจงกรมได้
ซึ่งอรรถกถาจารย์ท่านได้อธิบายไว้ว่า เกิดจากโทษที่ในอดีตชาติ พระเจ้าพิมพิสารเคยใส่รองเท้าเข้าไปในลานวัดลานเจดีย์ ดังนั้น...การที่พวกเราทั้งหลายถอดรองเท้าก่อนใส่บาตร นอกจากเป็นการเคารพในทานแล้ว ยังเป็นการแสดงออกซึ่งความเคารพในพระรัตนตรัยอีกด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2022 เมื่อ 18:53
|