ประการที่สอง การเสด็จออกบิณฑบาตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น บางทีไปไกลมาก ไกลถึงขนาดข้ามประเทศ..! พระองค์ท่านกว่าจะเสด็จกลับก็ต้องเป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว ส่วนจะเสด็จกลับด้วยวิธีใด ? ทำไมไปไกลขนาดนั้นแล้วกลับได้ทัน ? ขอฝากเป็นการบ้านให้ท่านทั้งหลายไปค้นคว้ากันเอาเอง เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องตกเย็นแล้ว ถึงได้แสดงพระธรรมเทศนาโปรดประชาชนทั่วไปได้
ข้อที่ ๓ ปโทเส ภิกฺขุโอวาทํ ก็คือค่ำแล้ว ให้โอวาทพระภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี ซึ่งคำว่า ค่ำ ในที่นี้ กระผม/อาตมภาพตีความว่า อย่างน้อยก็น่าจะประมาณ ๒ ทุ่ม
ข้อที่ ๔ อฑฺฒรตฺเต เทวปญฺหนํ เมื่อเที่ยงคืนไปแล้ว ก็แก้ไขปัญหาที่พรหม เทวดา เสด็จมาทูลถาม
ข้อที่ ๕ปจฺจุสฺเสว คเต กาเล ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ ข้อที่ ๕ นี้สำคัญมาก ก็คือเวลาใกล้รุ่ง ทรงตรวจดูอุปนิสัยสัตว์โลก ว่าสมควรที่จะเสด็จไปโปรดผู้ใด แล้วก็กำหนดเอาไว้ เมื่อถึงเวลาช่วงเช้า ก็วนกลับไปสู่ภารกิจเดิม ก็คือการเสด็จออกบิณฑบาตเพื่อสงเคราะห์คนต่อไป
ในเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ปฏิบัติในพุทธัตถจริยาเป็นพุทธกิจ ๕ ประการตลอดพระชนม์ชีพ แล้วเราที่เป็นสาวก จะละเว้นจากภารกิจทั้งหลายเหล่านี้ได้อย่างไร ?
เพียงแต่ว่าในระหว่างที่บิณฑบาตนั้น ก็ไม่สามารถที่จะบอกกล่าวให้ชัดเจนได้ จึงฉวยโอกาสนำมาบอกกล่าวให้ญาติโยมทั้งหลาย ที่ฟังรายการเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้อยู่ ได้รับรู้รับทราบพร้อมเพรียงกันไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2022 เมื่อ 18:47
|