ชื่อกระทู้: รัฐสวัสดิการ
ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-04-2022, 03:56
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,796
ได้ให้อนุโมทนา: 270,148
ได้รับอนุโมทนา 840,322 ครั้ง ใน 12,820 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : ในเรื่องของธรรมและการปกครองประเทศ รัฐสวัสดิการ หรือส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ welfare model ที่ประเทศในยุโรปใช้กัน จะมีลักษณะเด่นที่ จ่ายภาษีสูงอย่างต่ำ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ แต่แลกมาด้วยสวัสดิการ ที่จำเป็นในชีวิต เช่น รักษาโรคฟรี เรียนฟรี ลาพักร้อนได้ ๑ เดือนในแต่ละปี โมเดลการปกครองประเภทนี้ ในความเห็นของหลวงพ่อในฐานะพระสงฆ์และเป็นพระโพธิสัตว์ที่ในอดีตชาติต้องเกิดมาปกครองคนมาเยอะ คิดว่าโมเดลแบบนี้ดีที่สุดหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : หลักการปกครองทุกชนิด ต้องมีธรรมะประกอบไปด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วท้ายสุดก็จะพังไปเพราะตัวบุคคล..!

ถาม : ในเรื่องของบารมี ๑๐ ในข้อของ ปัญญา และเมตตา คำถามคือ การทำงานกลุ่ม หรือในฐานะหัวหน้าคน ถ้ามีลูกน้องหรือคนที่ทำงานด้วย มาสาย ทำงานไม่ได้ตามเป้า เราเลยไล่คน ๆ นั้นออกจากกลุ่มเนื่องจากเป็นภาระ แบบนี้มันจะเป็นการขาดเมตตาบารมีไหมครับเพราะเราไม่ได้ให้อภัยเขา ?
ตอบ : พรหมวิหารมี ๔ ข้อ ไม่ใช่มีแค่เมตตาข้อเดียว..!

ถาม : สงสัยครับในสมัยพระพุทธเจ้ายังไม่มีมหาวิทยาลัย แต่ปัจจุบันนั้นมีมหาวิทยาลัยแล้ว เลยอยากทราบว่าถ้าคนเราบริจาคเงินสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์ จะมีอานิสงส์ใดเป็นพิเศษครับ เช่นเข้าถึงพระนิพพานเร็วขึ้นกว่าเดิม ?
ตอบ : เท่ากับธรรมทาน ยังเป็นแค่ทานก็ช่วยได้นิดหน่อย ต้องมีศีล มีภาวนา อีกมากมายมหาศาล..!

ถาม : ในเรื่องของการเสกพระเครื่อง คือการขอบารมีของพระพุทธเจ้าให้ช่วยเหลือในด้านที่ต้องการ คำถามคือคนที่ฝึกมโนมยิทธิ กับการนึกถึงพระพุทธเจ้า สามารถขอบารมีพระให้สงเคราะห์เราโดยตรงได้ไหมครับ โดยไม่ต้องผ่านพระเครื่อง ?
ตอบ : ได้..ตราบเท่าที่เรายังนึกถึงพระองค์ท่านไว้

ถาม : ผมได้อ่านเรื่องการอาฆาตที่ข้ามภพข้ามชาติ ของพระพุทธเจ้าและพระเทวทัต และเรื่องพระองคุลิมาลที่ท่านได้ฆ่าและตัดนิ้วคน เป็นเพราะคนเหล่านั้นเคยทำร้ายพระองคุลิมาลในอดีตชาติ และพระองคุลิมาลในชาตินั้นเกิดอาฆาตขึ้นมา ผมสงสัยว่าถ้าเกิดมาในชาติปัจจุบัน เราไม่รู้ว่าในอดีตเราได้ไปอาฆาตใครไว้ เราจะหลีกเหลี่ยงกรรมประเภทนี้ที่จะต้องทำร้ายคนอื่นอย่างไรครับ ?
ตอบ : อย่าเกิดอีก..!

ถาม : ในเรื่องบารมีของพระโพธิสัตว์ในตอนที่บารมีอยู่ระดับกลาง และสูงพระโพธิสัตว์จะฝึกฌานสมาบัติให้คล่อง ๆ ถ้าจะดูตัวอย่างชัด ๆ เลยในอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่เกิดเป็นสุเมธดาบส ที่มีฤทธิ์อภิญญาเยอะ และเป็นชาตินั้นที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้รับคำทำนายจากพระพุทธเจ้าในอดีตว่าพระองค์จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต และตัวผมปรารถนาพุทธภูมิ และผมฌานเสื่อมจนเข้าไม่ได้มาหลายปีแล้ว และเคยฝึกมโนมยิทธิ จนหัวใจเต้นแรงมากจนกายในเกือบจะออกจากร่างได้ไปแดนพระนิพพานแล้ว และปัจจุบันผมอายุ ๒๕ แล้วและใช้เวลาทำสมาธิน้อย และอยากถามในฐานะที่หลวงพ่อเคยฝึกฌานมาจนทรงฌานได้ตามใจนึก และเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีมาหลายอสงไขย คำถามคือตัวผมเป็นนักเรียน เป็นฆราวาสมีหลายอย่างที่ต้องทำและไม่เร่งทรงฌาน แต่ค่อย ๆ สะสมไป รอหาโอกาสให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อำนวยต่อการสร้างฌานโดยตรง เช่นเป็นนักบวชแบบนี้จะดีกว่า แต่ตอนผมมีเวลาว่าง ผมก็ออกแนววัยรุ่นใจร้อน พอทำสมาธิได้ไปสักพัก จิตไม่ยอมกลับไปเข้าฌานสักที ผมก็ไปหาอย่างอื่นทำ และก็ปลอบใจตนเองว่าอย่างน้อย กำลังใจระดับพระโสดาบันที่หลวงพ่อวัดท่าซุงสอน เราสามารถทำเทียบเคียงได้เนื่องจากได้ความสุขจากฌาน ๑ เลยมั่นใจว่าพระนิพพานดีแน่นอน และศรัทธาต่อพระรัตนตรัยที่ไม่ได้ทอดทิ้งผมและดวงจิตที่ยังท่องเที่ยวในสังสารวัฏ เลยอยากได้คำแนะนำจากหลวงพ่อว่า ผมควรทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : รีบทำให้ได้ก่อนที่จะตาย..!

ถาม : พระโพธิสัตว์ในช่วงบารมีกลางและตอนสูง จะทรงฌานและไปเกิดในพรหมโลก ผมได้อ่านไตรภูมิ สงสัยว่าที่พระโพธิสัตว์เลือกไปเกิดในพรหมโลก เพราะพระพรหมเสวยสุขจากฌานสมาบัติตลอดเวลา และอีกเหตุผลคือฌานสมาบัติเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีในการสร้างอธิปัญญาที่ในพระพุทธศาสนาเรียกว่าญาณ และพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะเข้าถึงพระญาณที่พระพุทธเจ้าท่านมี ที่เรียกว่าพระทศพลญาณที่จำเป็นในการสั่งสอนเวไนยสัตว์ ดังนั้นพระโพธิสัตว์เลยเลือกไปเกิดเป็นพรหมแทนที่จะเกิดในเทวดาในกามภูมิ ที่ส่วนใหญ่จะเสพสุขจากกามคุณใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เวลาของพรหมเร็วกว่าเทวดามาก จึงมาเกิดใหม่เพื่อสร้างบารมีได้เร็วกว่า

ถาม : ผมอยากถามเรื่องจิตดูจิต ธรรมในธรรม คนที่ภาวนาบ่อย ๆ สติจะดีขึ้นจะรู้ตัวไวและมากขึ้น และปกติของจิตคือจะคิดตลอดเสมอ และผมเข้าใจถูกต้องไหมครับว่า ความคิดที่เป็นกิเลส และความคิดที่เป็นกุศล จะคอยเขามาในจิต เหมือนอยากให้จิตเก็บความคิดจะดีหรือชั่วคิดต่อไป แต่ความคิดที่ดีหรือชั่วนั้นมันไม่ใช่ตัวตนเราจริง ๆ มันเป็นสังขาร พูดง่าย ๆ สังขารคือความคิดดีและคิดเลว ก็อยู่ส่วนของมันไป และจิตคือตัวรู้ก็อยู่ส่วนของจิต ไม่ใช่ตัวตัวเดียวกันกับสังขาร ?
ตอบ : รู้แล้วทำไม่ได้ รู้ไปก็ไร้ประโยชน์..!

ถาม : การที่เรารู้ว่าความคิดไม่ดี และความคิดดีกำลังเข้ามาหาเราให้เราคิด แต่ต่อให้จะเป็นความคิดดีที่เป็นกุศลเราก็ไม่รับมาคิดต่อ เพราะรู้สึกว่าอยากอยู่กับลมหายใจ อยู่กับปัจจุบัน ณ ตอนนี้ หรือถ้าจิตอยากจะคิดดีจริง ๆ ก็บังคับไม่ให้คิดดีออกแนวฟุ้งซ่านไปไกล เอาออกแนวที่เป็นไปได้แทนยกตัวอย่างเช่น พรุ่งนี้เดี๋ยวถวายสังฆทานดีกว่า อยากทราบว่าการที่ปฎิบัติแบบนี้ต้องแก้ไขอะไรหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : รักษาศีล ทรงฌาน ทรงสติ ใช้ปัญญา

ถาม : การเจริญวิปัสสนาญาณ ทำให้รู้สึกเบาใช่ไหมครับ อย่างเช่นที่หลวงพ่อสอนว่าคนเราไม่มีใครดีใครเลว เป็นไปตามกรรม พอเข้าใจแบบนี้ตัวเราก็ไม่ได้ไปตัดสินใคร เลยรู้สึกเบา ?
ตอบ : ถ้าทำใจตามไปตามนั้นได้ก็เบา ยังไม่ได้ก็หนัก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-06-2022 เมื่อ 04:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา