วิธีการสุดท้าย ท่านบอกว่าให้จัดงานศพตัวเอง ก็คือทำเหมือนกับว่าเราได้ตายไปแล้ว จัดงานศพให้แก่ตัวเอง นิมนต์พระมาสวดพระอภิธรรม มารับสังฆทาน ทำบุญอุทิศส่วนกุศล บางทีผีก็โง่กว่าที่เราคิด เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเขาตรงไปตรงมา ในเมื่อบอกว่าบุคคลนี้ตายไปแล้ว เขาก็เลิกติดตาม เลิกมาทวง
แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพเล่าให้พวกเราส่วนใหญ่ฟังไปว่า ที่เขาจะมาเอาเด็กคนหนึ่งอายุ ๑๘ ปี กระผม/อาตมภาพก็เลยเขียนเลข ๑๐ กับ เลข ๘ ต่อกันให้เขาดู (๑๐๘) บอก "นี่..อายุ ๑๘ ต้องเท่านี้" แล้วผีเขาก็ดันเชื่อ ปล่อยให้เด็กคนนั้นรอดไปได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องอยู่จนแก่หงำเหงือกหรือเปล่า !!?
วิธีการทั้งหลายเหล่านี้ วันนี้เราจะเอามาประยุกต์เข้าด้วยกัน ก็คือจะมีการเขียนชื่อ วันเดือนปีเกิด ใส่ไว้ในโลง สวดพระอภิธรรม มีการบังสุกุลตาย แล้วก็บังสุกุลเป็น เท่ากับว่าญาติโยมทั้งหลายได้ทำการสะเดาะเคราะห์ใหญ่ ด้วยการตั้งจิตตั้งใจฟังในพระอภิธรรม ๗ บท ซึ่งเป็นหลักธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์แล้ว มีผู้บรรลุมรรคผลมากที่สุด คือพรหมเทวดาที่ฟังพระอภิธรรม ๗ บท บรรลุมรรคผลไป ๘๐ โกฏิ..!
สมัยก่อนพระอภิธรรม ๗ บทนั้น ใช้ในงานมงคลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญบ้าน ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน โกนจุก บวชนาค แต่มาในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีการนำมาสวดถวายในงานพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ซึ่งสวรรคตด้วยเหตุเรือพระประเทียบล่ม ก็เลยทำให้เกิดภาพจำของคนส่วนใหญ่ว่าพระอภิธรรมใช้งานศพ แล้วก็ยึดถือกันสืบ ๆ มา
สิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนแก่พวกเรานั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่วิเศษทั้งหมด ถ้าเราเคารพเลื่อมใสจริง ๆ เข้าถึงเหตุถึงผลจริง ๆ จะรู้ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีผลานุภาพยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่กรรมชั่วใด ๆ จะตามติดได้ เปรียบเสมือนกับแสงสว่าง ซึ่งเป็นข้าศึกของความมืด คือกรรมชั่วทั้งหลายโดยตรง เมื่อแสงสว่างปรากฏขึ้น ความมืดก็ย่อมสลายไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2022 เมื่อ 03:14
|