สำหรับสามเณรทั้งหลายได้โปรดทราบ การซักซ้อมท่องคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร และการปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ก่อนสึกต้องว่าคนเดียวได้ ไม่ใช่ว่าพร้อม ๆ กันทั้งหมดแล้วว่าได้ ไอ้การว่าพร้อม ๆ กันทั้งหมดแล้วได้ ก็เหมือนกับนักเรียนสมัยนี้ บางคนเรียนชั้น ป.๖ แล้ว ศึกษานิเทศก์ไปตรวจสอบความรู้ ชี้ตัวหนังสือไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว อ่านไม่ออกแม้แต่ตัวเดียว แต่เวลาให้ท่องพร้อมเพื่อน ท่องได้ทุกครั้ง เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าพี่เลี้ยงมีเวลาก็จับซ้อมท่องเดี่ยวไปก่อน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็จะเหมือนกับปีที่แล้ว ที่ต้องร้องไห้เพราะไม่ได้สึก..!
ส่วนสามเณรต้นน้ำก็คงหายห้าวไปแล้ว ที่จะขอบวชตลอดชีวิต เพราะจนป่านนี้ก็ยังร้องไห้คิดถึงบ้านอยู่ จะได้รู้ว่าการบวชไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งหนึ่งประการใดที่เห็นคนอื่นทำได้แล้วอย่าคิดว่าง่าย ที่เขาทำแล้วเราเห็นว่าง่ายนั่นเขายากมาเยอะแล้ว
แบบเดียวกับที่พระพาหิยทารุจีริยเถระ พระพุทธเจ้าเทศน์สั้น ๆ ประโยคเดียวเป็นพระอรหันต์เลย ทุกคนก็ว่าท่านบรรลุง่าย แต่ไม่ได้ดูว่าชาติก่อนท่านถึงขนาดอดตาย เพราะว่าปฏิบัติเท่าไรก็ไม่ได้อภิญญาสมาบัติ ก็เลยยอมอดตาย
ดังนั้น...เรื่องที่คนอื่นทำแล้วง่าย ไม่แน่ว่าจะง่ายสำหรับเรา ต้องใช้ความเพียร ใช้ความอดทนมากกว่าปกติ ถ้าใจสู้จริง ๆ ถึงจะรอดได้ ไม่ใช่คิดว่าเราจะทำแล้วก็ทำ ถ้าหากว่าง่ายแบบนั้นเขาบวชกันหมดประเทศแล้ว
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2022 เมื่อ 02:53
|