ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 22-03-2022, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเราต้องเข้าใจว่า วิธีการที่จะนำนอแรดมาเป็นส่วนผสมของยาจินดามณีได้นั้น ก็อยู่ลักษณะเดียวกันกับการใช้ผงงาช้างกำจัด ก็คือต้องนำเอามาคั่วจนกรอบ แล้วตำเป็นผง ทำการกรองอย่างพิถีพิถัน ถึงจะนำมาเป็นส่วนผสมได้ และต้องพยายามผสมให้เข้ากัน คือกระจายไปทั่วเนื้อยาให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าไปตกอยู่จุดใดจุดหนึ่ง เมื่อทำเป็นตัวยาขึ้นมา ยาตรงจุดนั้นจะเย็นจนเกินไป ซึ่งอาจจะก่อผลร้ายให้กับผู้ที่มีไฟธาตุน้อย

ตรงจุดนี้เราต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง ถ้าไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญและชำนาญจริง ๆ ผสมแล้วเข้าไม่ทั่วถึงอย่างแท้จริง ผลดีที่เกิดขึ้นก็อาจจะเป็นผลร้ายสำหรับบางคนก็เป็นได้

อีกส่วนหนึ่งที่รับมาก็คือแมลงภู่คำ ซึ่งท่านพระครูปลัดพิจารย์ก็ได้ดัดแปลงจากการบรรจุเข็มอัคคียะตามแบบสายมอญพม่าในปัจจุบันนี้ มาเป็นการบรรจุเข็มทองเข็มนากแทน โดยนำมาเข้าพิธีซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการประยุกต์วิชาการเช่นกัน

เพราะว่าในบางครั้งนั้น วิชาการต่าง ๆ จะดีขึ้น หรือว่าไม่ดีขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับการพลิกแพลงใช้งานเช่นกัน ท่านที่สามารถเข้าถึงอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นพระคาถา หรือว่าการทำเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลใด ๆ ก็สามารถที่จะพลิกแพลงใช้งานให้ดีขึ้น

ดังนั้น...ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ถ้าเป็นเรื่องของแหวนพิรอด เราจะเห็นว่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คือสำนักของหลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน หรือว่าสำนักวัดหนองบัวของหลวงปู่ยิ้ม ตลอดจนกระทั่งพ่อปู่หมอน้อย จังหวัดอ่างทอง เป็นต้น

ถ้าหากว่าเป็นเชือกคาดก็ต้องสำนักหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว สำนักของหลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน หรือว่าสำนักหลวงปู่โชติ วัดตะโน แล้วครูบาอาจารย์รุ่นต่อมาที่มีชื่อเสียง ก็อย่างเช่นว่า สำนักหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค (วัดโฆสิตาราม)

ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายก็จะมีการประยุกต์เช่นกัน อย่างเช่นว่า บางท่านก็นำเอาลูกอมถักเป็นหัวเชือกคาด บางท่านก็บรรจุพระปิดตาเข้าไปแทน เป็นต้น บางท่านก็มีการประกบด้วยการสอดตะกรุดเป็นระยะ ๆ ซึ่งตรงจุดนี้ก็แล้วแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านจะประยุกต์และพัฒนาวิชาการไปในแนวไหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2022 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา