วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพได้มีโอกาสไปงานปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดบึงลาดสวาย มีหลายเรื่องที่อยากจะกล่าวถึง ณ ที่นี้
ประการแรกเลยก็คือ เมื่อเข้าไปในพระวิหารพระพุทธชินราชซึ่งเป็นสถานที่ปลุกเสกวัตถุมงคล เห็นหลวงปู่ใหญ่ วัดป่าแก้ว ท่านนั่งอยู่ จึงเข้าไปกราบท่านด้วยความดีใจ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า วัตถุมงคลของทางวัดบึงลาดสวายนี้ ส่วนใหญ่แล้วทำตามตำราวิชาสายมอญ ซึ่งหลวงปู่ใหญ่ วัดป่าแก้วนั้น ท่านเป็นพระเถระชาวมอญที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราชในสมัยกรุงศรีอยุธยายุคนั้น
วิชาการสายมอญแทบทั้งหมดเป็นวิชาการที่หลวงปู่ใหญ่ วัดป่าแก้ว ท่านได้นำมาจากประเทศพม่าในยุคนั้น แล้วเอามาเผยแพร่ในประเทศไทยของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลบผงปถมัง อิทธิเจ มหาราช ตรีนิสิงเห หรือว่าพุทธคุณ เรื่องของการสร้างเบี้ยแก้ เรื่องของการสร้างผ้ายันต์ แหวนพิรอด สายคาดเอว ตะกรุดหนังเสือ หรือแม้กระทั่งตำราการสร้างแมลงภู่คำ
เมื่อหลวงปู่ใหญ่ท่านอยู่ในพิธีกรรม กระผม/อาตมภาพก็สบาย มีหน้าที่นั่งดูอย่างเดียวว่าท่านทำอะไรบ้าง เมื่อท่านบอกว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำน้ำมนต์พรมวัตถุมงคลให้ หลังจากเสร็จพิธีทางเจ้าภาพมีการถวายปัจจัยไทยธรรม ไทยธรรมที่รับมานั้นมีหลายส่วนที่ควรกล่าวถึง
อันดับแรกเลยก็คือ ผงสัมฤทธิ์ที่ปั้นเป็นลูกอมแล้วทาชาดทับเอาไว้ ปกติแล้วผงอิทธิเจจากกรุวัดร้างสัมฤทธิ์ ก็มีอานุภาพเป็นที่กล่าวขานเลื่องลือไปทั้งประเทศอยู่แล้ว นี่เมื่อนำมาปั้นเป็นลูกอม แล้วยังเอามาเข้าพิธีซ้ำอีก ก็ต้องบอกว่า "ในดี" มีการ "เพิ่มดี" ให้มากขึ้น โดยปกติผงอิทธิเจกรุวัดร้างสัมฤทธิ์นั้น ผู้ที่ได้ไปก็นำไปติดตัว หรือว่านำไปผสมใส่ในวัตถุมงคล แต่ว่านี่เป็นการนำมาปั้นเป็นลูกอมเลย ต้องบอกว่าเป็นการใช้ผงวิเศษอย่างสิ้นเปลืองมาก..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2022 เมื่อ 02:01
|