เรื่องพวกนี้พวกเราต้องค่อย ๆ ศึกษาและทำความเข้าใจไป ต้องมีประสบการณ์ที่เกิดจากการที่เราทำแล้วได้ผล แล้วถ้าหากว่ายิ่งซักซ้อมทำไป มีความคล่องแคล่วชำนาญมากขึ้น ก็จะยิ่งได้ผลมาก เหมือนกับการฝึกการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย กระบี่กระบอง หรือแม้กระทั่งศิลปะอย่างการรำไทย หรือการแสดงโขน เขาจะมีแม่ไม้ คือท่าหลัก ซึ่งเราต้องขยันซักซ้อมเป็นอย่างยิ่ง ต้องซ้อมจนกลายเป็นสัญชาตญาณประจำตัว
ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เวลาหน้าฝนถนนลื่น เวลาเดินบิณฑบาต กระผม/อาตมภาพลื่นไถลออกจะบ่อยไป แต่ไม่เคยล้ม เพราะว่าการทรงตัวกลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว บรรดาการฝึกฝนต่าง ๆ ต้องอาศัยความเพียร ความอดทน ก็คือวิริยบารมีและขันติบารมีเป็นอย่างยิ่ง
สมัยที่กระผมอาตมภาพฝึกมวยกับครูเขตร์ ศรียาภัยนั้น เฉพาะการ "ย่างสามขุม" อย่างเดียว ท่านให้ฝึกอยู่นานถึงครึ่งปี เพื่อวางพื้นฐานให้แน่น การที่ไปรับรางวัลญาณสังวรก็ดี รางวัลปัญญาภิวัฒน์ก็ดี รางวัลหงส์ทองก็ดี ช่วงที่เขานิมนต์พระเข้าไปนั่งรอนั้น มีญาติโยมอยู่หลายร้อยคนโดยเฉพาะผู้หญิง พระอื่นเดินไปแล้วก็ติดอยู่แค่นั้น แต่กระผม/อาตมภาพ แซงหน้าหายลิบไปแล้ว นั่นก็คือลักษณะของการที่เราฝึกซ้อมจนกระทั่งท่าเท้ากลายเป็นธรรมชาติ เห็นช่องว่างเพียงเล็กน้อยก็สามารถที่จะฉวยโอกาสเล็ดลอดไปได้
เมื่อฝึกซ้อมท่าหลักมาก ๆ จนคล่องตัว กลายเป็นสัญชาตญาณ จาก "แม่ไม้" ก็จะเริ่มแตกแขนงเองโดยอัตโนมัติ กลายเป็น "ลูกไม้" ถ้าหากว่าฝึกถึงระดับลูกไม้นี่ถือว่าเริ่มใช้ได้ แล้ว เมื่อฝึกมาก ๆ เข้าก็จะเกิดการพลิกแพลง จากแม่ไม้ ลูกไม้ ก็จะกลายเป็นเพิ่มเติมในสิ่งที่ตนเองถนัด และชำนาญต่างจากคนอื่น กลายเป็นบัญญัติวิชาเพิ่มขึ้นมาได้
แต่ว่าในเรื่องของการเจริญพระกรรมฐาน เรื่องของพระเครื่องวัตถุมงคล พระคาถาภาวนาต่าง ๆ เป็นแค่พื้นฐานเล็กน้อยเท่านั้น การที่เราหมั่นเพียรทำอยู่ทุกวัน ถือว่าเป็นส่วนของศีล ก็คือบังคับตนเองว่าต้องทำโดยละเว้นไม่ได้ ละเมิดไม่ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2022 เมื่อ 02:49
|